Posted on

รวมโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดที่รองรับ 5G

รวมโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดที่รองรับ 5G รวมทั้งคาดว่าจะขายในประเทศไทย ในตอนต้นปี 2020

ภายหลังที่ผู้ให้บริการอย่าง AIS ได้ประกาศว่าพร้อมให้บริการ 5G ในประเทศไทยไปก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาก็ทำให้ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยต้องการรู้ว่าในช่วงเวลานี้โทรศัพท์มือถือรุ่นไหนที่ใช้งาน 5G ได้บ้างวันนี้พวกเราได้รวมโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นใหม่ที่คาดว่าจะเปิดตัวรวมทั้งรองรับ 5G ในประเทศไทย มาให้ชมกัน

Huawei Mate 30 Pro

เริ่มกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ประกาศตนเองว่าพร้อมสำหรับ 5G รองรับคลื่นมากถึง 8 เขตความถี่รวมทั้ง 700MHz, 2600MHz, 3500MHz เป็นต้นส่วนสเปกที่เหลือยังคงเช่นเดียวกับ Huawei Mate 30 Pro และก็รวมถึงราคาเครื่องอยู่ที่ 31,900 บาท จัดว่าเพิ่มจากรุ่นธรรมดานิดหน่อยนะครับ

Samsung Galaxy S20 Ultra

เรือธงใหม่ล่าสุดที่พร้อมที่จะจัดส่งมอบวันที่ 6 เดือนมีนาคม คนไหนจองไว้ก่อนลุ้นว่าจะได้อัปเดต Software ให้ใช้งาน 5G เมื่อไหร่ แต่ว่าที่แน่ๆเป็น Galaxy S20 จะรองรับเพียงแค่ 2600MHz รวมทั้ง 3500MHzเพราะฉะนั้นคนไหนจะเผื่ออนาคตอาจจะจำเป็นต้องมองข้าม แต่ว่ารุ่นนี้ลักษณะเด่นคือกล้องถ่ายภาพซูมได้ไกลระดับ 100 เท่า หน้าจอไม่โค้ง และก็แบตเตอรี่ใหญ่อลังการงานสร้างถึง 5000 mAH นับว่าใหญ่อยู่ ส่วนราคา 39,900 บาท สำหรับเครื่องเปล่า ติดโปร ถูกกว่านี้แต่ว่าเรียนรู้ให้ดีนะครับผม

Sony Xperia 1 Mark 2

อีกโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นหนึ่งที่พึ่งจะเปิดตัวไปไม่นานสำหรับ Sony Xperia 1 Mark 2 ที่นอกเหนือจากเรื่องของกล้องถ่ายรูปแล้วโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อ 5G ในเขตความถี่ที่เมืองไทยรองรับเพียงแค่ 700MHz เพียงแค่นั้น แต่ว่ากว่าจะเข้าจัดจำหน่ายรุ่นนี้ก็อาจจะจะต้องรอหน่อย แต่ว่ากล้องถ่ายภาพยังคงเป็นคุณลักษณะเด่นอยู่ครับ เนื่องจากเลนส์ Zeiss T* ตัวเทพสุด

Realme X50 Pro 5G

โทรศัพท์เคลื่อนที่เรือธงของ realme รุ่นแรกของปีที่รองรับ 5G จำพวกที่เรียกว่าครบทุกบริเวณเลยทั้งยัง 700 / 2600 สามารถใช้งานได้แน่ๆ สเปกโดยรวมนับว่าปรับปรุงจาก X2 Pro ในหลายเรื่อง แล้วก็ยังคงน่าใช้แต่ว่าสเปกไหนที่จะขายในประเทศไทย รวมทั้งราคาเครื่องเท่าไหร่ จำต้องรอคอยติดตาม

OPPO Find X2 / Find X2 Pro

สุดท้ายเรือธงอย่าง OPPO ที่กำลังจะเปิดตัวทั้งโลกในวันที่ 6 เดือนมีนาคม กับสเปกจัดหนักจัดเต็ม พื้นฐานมีการใช้ขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 865 แล้วก็มาพร้อมกับ RAM ที่จัดเต็มและก็วางแบบจะเน้นย้ำการใช้แรงงานจริงเพิ่มมากขึ้น แต่ว่าราคานั้นคืออะไรจะต้องติดตามกันต่อไป

เรื่องควรรู้ก่อนซื้อมือถือ 5G

สำหรับผู้ที่พอใจอยากทราบว่าซิมการ์ดของคุณใช้งาน 5G ได้หรือเปล่านั้น โดยมากผู้ให้บริการจะกล่าวว่าถ้าหากรองรับ 4G ก็สามารถใช้งาน 5G ได้เพราะประเทศไทยยังคงเลือกใช้แบบ NSA หรือNon Standalone พอๆกับ 5G ในพื้นฐานของ 4G นั่นเองครับผม ความเร็ว Download จะมากยิ่งกว่า Upload ช่วงนี้แล้วก็ดีไม่ดี4G จะ Upload เร็วกว่าในขณะนี้

 

สนับสนุนโดย  next88

Posted on

ผลกระทบของการใช้โทรศัพท์มือถือ

ผลกระทบของการใช้มือถือในปัจจุบันโทรศัพท์มือถือแต่เราเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตประจำวันของมนุษย์และภายในหนึ่งวันเราใช้โทรศัพท์มือถือที่มีการเฉลี่ยโดยประมาณ 5.7 ชั่วโมงต่อวันได้โดยอ้างอิงมาจาก ETDA สำนักงานพัฒนาทุรกรรมทางด้านของอิเล็กทรอนิกส ของกระทรวงไอซีทีนั่นเอง 

แล้วคุณรู้หรือไม่ว่าโทรศัพท์มือถือที่เราใช้อยู่นั้นไม่ว่าจะเป็นการโทรหรือเป็นการเล่นแอพพลิเคชั่นในรูปแบบต่างๆจะก่อให้เกิดผลกระทบที่ตามมา โดยมีดังนี้

ในเรื่องของด้านสุขภาพ นั่นก็คือ 

โรคจิตติดมือถือ หรือ nomophobia ซึ่งนั่นก็หมายถึงความรู้สึกไม่สบายใจวิตกกังวลกลัวที่จะไม่มีโทรศัพท์มือถือในการใช้งานโดยจะมีอาการดังต่อไปนี้ 

่างมือถือไม่ได้เลย  

-เสียงมือถือดังทีไรทิ้งทุกอย่างในทันที 

มีการอัพเดทโซเชียลมีเดียอยู่ตลอดเวลาและไม่มีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลรอบข้างแม้กระทั่งคนในครอบครัว 

โรคจอประสาทตาเสื่อมนั่นก็คือ 

โลกนี้เกิดจากแสงสีน้ำเงินจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือของเราซึ่งดวงตาที่ได้รับแสงสีน้ำเงินมากๆนั้นจะก่อให้เกิดการเสื่อมของศูนย์กลางเรติน่า ของดวงตาโดยจะมีอาการดังต่อไปนี้ 

-มีการมองภาพที่บิดเบี้ยวไปจากเดิม 

จะมองในที่สว่างได้ไม่ชัดเท่าที่ควร 

-จะมีสายตาที่พล่ามัว 

และจะมีการมองสีผิดเพี้ยนไปจากเดิม  

โรค Text neck syndrom หรือโรคไหล่ห่อคอตกนั่นเอง 

โลกนี้คือกลุ่มอาการการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อบริเวณที่เป็นคอบ่าและไหล่นั่นเองรวมไปถึงความเสื่อมของกระดูกที่เป็นข้อต่อของกระดูกหรือหมอนรองกระดูกบริเวณที่เป็นคอได้เช่นกันโดยปัญหาหลักหลักเหล่านี้เกิดจากการบาดเจ็บที่ซ้ำซากในบริเวณคอของเรา ซึ่งเป็นการใช้โทรศัพท์มือถือในระยะเวลานานของแต่ละวันและร่างกายอยู่ในอิริยาบถที่สมนั่นเอง 

โรคเนื้องอกหรือมะเร็งที่สมองมีดังนี้ 

โรคที่เกิดจากสาเหตุเหล่านี้เกิดจากรังสีที่แผ่ ออกมาในขณะที่มีการใช้งานของโทรศัพท์มือถือหากเราได้รับรังสีในปริมาณมากและมีการเกิดการสะสมรังสีซึ่งนั่นจะเป็นการไปทำร้ายดีเอ็นเอของร่างกายของเรา และอาจส่งผลให้เกิดเป็นเซลล์เนื้องอกได้ซึ่งถ้าหากร่างกายได้รับกับรังสีเหล่านี้จะส่งผลต่อสุขภาพนั่นก็คือจะมีอาการเวียนหัวปวดหัวเนื้องอกในหูและเนื้องอกนัยน์ตาและร้ายแรงที่สุด นั่นก็คือเนื้องอกในสมองนั่นเอง 

ด้านสังคมและคนรอบข้างมีดังนี้ 

ขาดความมีมนุษย์ สัมพันธ์ที่ดี ถึงแม้ว่าโทรศัพท์มือถือจะเป็นเครื่องมือการสื่อสารที่ทำให้เรานั้นติดต่อกับคนได้มากมายได้ทั่วโลกแต่คนส่วนใหญ่ จะใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อเป็นการพูดคุยกับเพื่อนหรือญาติสนิทมิตรสหายที่อยู่ห่างไกลจึงขาดความใส่ใจที่จะสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ห่างเหินกลายเป็นคนที่แยกตัวออกจากสังคมนั่นเอง       

Posted on

อันตรายของรังสีที่เกิดจากการใช้โทรศัพท์มือถือ

มีรังสีจากโทรศัพท์มือถือจริงหรือไม่

ในปัจจุบันโทรศัพท์มือถือกายมาเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกายมนุษย์และภายในหนึ่งวันเราใช้โทรศัพท์มือถือโดยเฉลี่ยแล้วประมาณ 7.2 ชั่วโมงต่อวันโดยอ้างอิงมาจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริม สุขภาพแล้วรู้หรือไม่ว่าโทรศัพท์มือถือที่เราใช้นั้นมีรังสีแพร่ออกมาด้วยในขณะที่โทรศัพท์ปิดเครื่องนั้นจะไม่มีรังสีแผ่ออกมาจากตัวเครื่องแต่เมื่อเราเปิดเครื่องจะมีรังสีแพร่ออกมาในปริมาณออกอ่อนในขณะที่เราใช้งานออนไลน์นั้นจะมีรังสีแพร่ออกมาในปริมาณมากและถ้าเราได้รับรังสีปริมาณมากและเกิดการสะสมเป็นเวลานานรังสีที่ได้รับจะไปทำลาย DNA ของเซลล์ในร่างกายทำให้เซลล์เกิดการบาดเจ็บเสียหายและอาจเกิดการกลายพันธุ์เป็นเนื้องอกได้ในที่สุด

เมื่อร่างกายได้รับรังสี จากโทรศัพท์มือถือแล้วจะเป็นอย่างไร

ปัจจุบันเป็นยุคของการใช้เทคโนโลยีเพื่อการติดต่อ สื่อสารและเทคโนโลยีที่ใกล้ตัวคนเรามากที่สุดเป็นอันดับที่หนึ่งนั่นก็คือโทรศัพท์มือถือตามสติในการใช้โทรศัพท์มือถือของคนไทยทั้งห้าภูมิภาคจากสำนักงานสถิติแห่งชาติโดยแบ่งตามช่วงอายุ พบว่าห้าถึง 14 ปีใช้ 23.6% ส่วน 10 ห้าถึง 24 ปี 44.6% 25 ถึง 34 ปีใช้ 19.4% 35 ถึง 49 ปี 10.3% และ 50 ปีขึ้นไปใช้อยู่ที่ 3.4% และ การใช้โทรศัพท์มือถือมากจนเกินไปนั้นก็จะได้รับรังสีจากโทรศัพท์มือถือมากขึ้นด้วยเช่นกันซึ่งจะส่งผลต่อสุขภาพคือจะมีอาการเวียนหัวปวดหัวอาจเกิดเนื้องอกในหูเนื้องอกนัยน์ตาและเนื้องอกใน สมองหากมีอาการเหล่านี้ควรรีบไปพบแพทย์ในทันที

วิธีการป้องกันรังสีจากโทรศัพท์มือถือ

ในสังคมปัจจุบันการดำเนินชีวิตในแต่ละวันของคนเรานั้นมีติกรรมเสพติดการใช้โทรศัพท์มือถือกันมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นเวลากินข้าวเวลาทำงานหรือเวลาเข้าห้องน้ำแม้กระทั่งเวลานอน แล้วเราจะมีวิธีการป้องกันรังสีจากการใช้โทรศัพท์มือถืออย่างไรได้บ้าง

  • ควรวางโทรศัพท์มือถือให้ห่างจากตัวประมาณ 15 เซนติเมตร
  • ไม่ควรถือโทรศัพท์มือถือข้างเดียวนานเกิน 15 นาที
  • ควรใช้หูฟังแทนการใช้โทรศัพท์มือถือแนบกับหู

เด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปีจะมีกะโหลกที่บางกว่าผู้ใหญ่ทำให้เกิดโรคได้ง่ายกว่า

เราจะเห็นได้ว่าการใช้โทรศัพท์มือถือมีทั้งประโยชน์และโทษของมานซึ่งเราควรใช้ให้ถูกจุดหรือถูกลักษณะโดยวิธีการทำปฏิบัติตามคำแนะนำด้านบนจะเป็นการช่วยให้คุณและครอบครัวของคุณห่างไกลโรคต่างๆที่เกิดขึ้นจากโทรศัพท์เหล่านี้และไม่ควรใช้นานเกินเกินไปควรหันไปคุยกับคนรอบข้างบ้างเพื่อเป็นการสานสัมพันธ์ในครอบครัวหากคุณ มัวแต่เล่นโทรศัพท์มือถือหรือต่างคนต่างเล่นนอกจากจะส่งผลให้เกิดผลเสียหรือทำให้เป็นโรคตามมาก็ยังทำให้ครอบครัวของคุณห่างไกลกันมากขึ้นอีกด้วย

Posted on

โปรโมรชั่นรับฟรี huawei รุ่น y6s มีดังนี้

สำหรับทุกคนปฏิเสธไม่ได้ใช่ไหมคะว่าโทรศัพท์ในวันนี้ก็เป็นเรื่องของปัจจัยพื้นฐานสำหรับหลายๆท่านไม่ว่าจะเป็นโทรเข้า หรือรับสายหรือดูหนังฟังเพลงเล่นเกมดูยูทูป หรืออะไรแบบนี้แต่บางท่านที่ยังไม่มีโทรศัพท์มือถือใช้หรือบางท่านที่อาจจะทำมือถือหล่นหายตกน้ำหรืออะไรก็แล้วแต่ค่ะและวันนี้เราได้นำเสนอ

สิ่งต่างๆนั้นก็คือการลุ้นรับโทรศัพท์มือถือฟรี นั่นก็คือโทรศัพท์รุ่น huawei นั่นเองโดยรุ่นนั้นจะเป็นรุ่น y6s เป็นการรับเครื่องไปใช้เน็ตฟรีฟรีโดยที่ท่านไม่ต้องจ่ายเงินค่าเครื่องแม้แต่บาทเดียวนะคะ

สำหรับ huawei y6s นั้น เป็นรุ่นจอใหญ่ 6.09 นิ้วหรือประมาณ 6 นิ้วนะคะ

แบตเตอรี่ประมาณ 3020 mah กล้อง 13 ล้านพิกเซล สำหรับในส่วนรายละเอียดในสเป็คพื้นฐานนั้นเราจะมาแนะนำและเป็นการรับเครื่องฟรีนั้นน่ะค่ะหน้าจอนั้นจะเป็นหน้าจอแบบน้ำหยดน้ำโดยมีจอกว้างประมาณ 6.09 นิ้วความละเอียดของหน้าจอคือ 720 โวลต์ 1560 พิกเซล

เป็นระบบปฏิบัติการ android 9.0 หน่วยประมวลผลจะเป็นระบบแบบมีเดียเทคความเร็ว 2.3 จิกะเฮิร์ตซ์ลอม 64 กิ๊กแรมสามจิ๊กพอมาถึงตัวลอมกับแรมบางท่านอาจจะไม่เข้าใจว่าลอมคืออะไร rom พื้นที่จัดเก็บข้อมูล 64 จิ๊กซึ่งก็คือในปัจจุบันนี้ก็จะมีการเก็บ 64 128 อะไรประมาณนี้แต่สำหรับ 64 จิ๊กก็เพียงพอสำหรับการใช้งานพื้นฐานทั่วๆไปนะคะ

ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมหรือดูหนังฟังเพลง และ ram ตัวนี้ให้มามากถึงสามจิ๊ก ซึ่งเป็นรุ่นกลางถึงสูงนะคะและสำหรับเรื่องนี้ยังสามารถเพิ่มเมมบริการได้อีกถึง 512 จิ๊กกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซลโลรับแสงขนาด f/1.8 กล้องหน้าความละเอียดแปดล้านพิกเซลรูรับแสง f/2.0 แบตเตอรี่ที่ให้มาพร้อมกับตัวเครื่อง 3020 mah นี่ก็เป็นสเปคของตัวเครื่อง huawei y6s ราคาไม่ได้เสียงนะคือท่านไม่ต้องจ่าย เงินค่าเครื่องแม้แต่บาทเดียวนะคะสำหรับการรับ huawei y6s ไปใช้นั้น แบบฟรีๆ และรายละเอียดในการรับฟรีมีดังนี้

สำหรับรายละเอียดในการรับโทรศัพท์แบบฟรีโดยที่ฉันไม่ต้องเสียงเงิน

หรือจ่ายเงินค่าเครื่องแม้แต่บาทเดียวนั้นก็เป็นชั่นจากทางด้านของเครือข่ายดีแทคสำหรับพรุ่งนี้ก็คือโทรศัพท์รุ่นนี้จะมีสีด้วยกันทั้งหมดสองสีด้วยกันซึ่งจะมีสีดำและจะมีสีฟ้าสามารถรับฟรีได้ทั้งสองสีเลยนะคะสำหรับการรับฟรีทั้งสองสีนี้จะได้ของแถมเป็นยูเอสบีอะแด๊บเตอร์มูลราคา 780 บาทไปใช้งานด้วยนะคะ

เห็นหรือเปล่าคะว่าเพื่อนก็รับฟรีแถมยังได้ของแถมอีกสำหรับโปรโมชั่นนี้ตามที่เราได้แจ้งไปจะเป็นโปรโมชั่นทางด้านของเครือข่ายดีแทคในรายละเอียดของการรับเครื่องฟรีนั้นทางดีแทคก็ได้มีกำหนดและกฎเกณฑ์ในการรับเครื่องฟรีทั้งหมดดังต่อไปนี้

ในการรับเครื่องฟรีของมือถือรุ่นนี้นั้นทาง DTAC ได้กำหนดไว้ว่าสำหรับลูกค้าที่ย้ายค่ายมาใช้ระบบของดีแทคระหว่างวันที่ 19 ถึง 29 กุมภาพันธ์ผ่านทางช่องทางออนไลน์ในส่วนของวิธีการย้ายค่ายผ่านทาง ช่องทางออนไลน์มาเป็นระบบเครือข่ายของดีแทค และการรับช่องทางในการรับเครื่องฟรีนั้นที่ท่านไม่ต้องจ่ายเงินค่าเครื่องแม้แต่บาทเดียว

เพียงแต่ดีแทคให้ท่านชำระค่าบริการรายเดือนล่วงหน้า 700 บาทตรงจุดนี้หลายหลายท่านก็คงจะสงสัยว่าการที่เราได้แจ้งเมื่อสักครู่นั่นก็คือรับเครื่องฟรีแต่ทำไมเราจะต้องจ่ายเงินค่าบริการล่วงหน้าทำไมไม่ได้ฟรีโดยที่ไม่ต้องจ่ายอะไรเลยตรงนี้ขอชี้แจงเพิ่มเติม

ดังนี้การรับเครื่องฟรีนั้นก็คือโปรโมชั่นจากทางร้านของดีแทคโดยดีแทคนั้นให้เครื่องฟรีซึ่งท่านไม่ต้องจ่ายเงินเพราะถ้าท่านเดินทางไปซื้อตามร้านค้าโทรศัพท์รุ่นนี้จะต้องทำการจ่ายเงินประมาณ 4000 บาทท่านจะไม่ได้ฟรี

Posted on

แก้ปัญหาเข้าระบบแบบ 2 ชั้น ผ่าน Messenger บนเฟซบุ๊ก

วันนี้จะพาพวกเรานั้นไปเรียนรู้ระบบการเข้าเฟสบุ๊กบางคนก็คือการเข้าระบบแบบ 2 ชั้นไว้นั่นเอง ก็คือการเกิดปัญหาด้วยการไม่ได้รับการแจ้งเตือนนั่นเอง ซึ่งนี่ก้คือเป็นการแก้ปัญหาเบื้องต้นเพียงเท่านั้นนะไม่ใช่การแก้ไขปัญหาแบบ 100 เปอร์เซ็นต์เต็มก็คือน่าจะได้บ้างไม่ได้บ้างประมาณนี้นะ ก็คือถ้าใครที่ทำตามวิธีที่เราบอกแล้วไม่ได้นั่นก็คือคงใช้วิธีนี้ไม่ได้นะ หากใช้วิธีนี้ไม่ได้ก็ลองไปหาวิธีอื่นๆจากคนอื่นเอาละกัน

ดังนั้นหากเราใช้งานก็คือเรานั้นควรที่จะเรียนรู้ในการป้องกันอยู่ตลอดเวลานั่นเอง และใครที่ใช้เฟสบุ๊กในการสื่อสารหรือใช้ในการทำงานอะไรก็ตามสิ่งทีสำคัญนั้น สำหรับบัญชีอีเมลและเบอร์โทรของโทรศัพท์นั้นจะต้องมีการใช้งานอยู่เป็นประจำนั่นเองนะ

ถ้าหากสองสิ่งนี้ใช้งานบนเฟสบุ๊กของคุณไม่ได้นั่นคุณเตรียมตัวทิ้งบัญชีเดิมของคุณได้เลยก็คือขอฝากเรื่องนี้ไว้เลนะ ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นการพาไปดูวิธีเพื่อเป็นการแก้ปัญหาผ่าน Messenger นั่นเอง

กรณีที่ไปเข้าระบบเฟสบุ๊กแล้วไม่ได้รับรหัสยืนยันหรือตั้งค่าล็อก 2 ชั้นแต่เมื่อเข้าระบบแล้วระบบไม่ส่งรหัสมาให้ ต้องบอกไว้ก่อนนะว่าการแก้ในส่วนนี้

1.คุณจะต้องยังไม่ออกระบบของ Messenger ยังใช้งานปกติอยู่

2.รหัสผ่านเฟสบุ๊กของคุณนั้นคุณยังจะต้องจำได้คือมีการใช้งานได้ตามปกติ

ทั้งสองสิ่งนี้หากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งคุณจะไม่สามารถแก้ปัญหาการเข้าระบบแบบ 2 ชั้นนี้ได้

มาดูกันดีกว่าว่าทำอย่างไรได้บ้างยกตัวอย่าง

เราจะทำการเปิดแอพพลิเคชั่นที่เป็น กูเกิ้ลโครม ในส่วนนี้ก็กดเข้าไปเลย ต่อไปในช่องค้นหาหรืออที่อยู่เว็บให้เรากดเข้าไปเสร็จแล้วก้พืมพ์ เฟสบุ๊กดอทคอมนั่นเองประมาณนี้จากนั้นให้เราไปกดที่จุดไข่ปลาที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอที่เป็นจุดสามจุดนะ ดังนั้นกดค้นหาและไปทำการติ๊กเว็บไซต์เวอร์ชั่นเดสก์ท็อปตัวนี้ โดยการติ๊กเครื่องหมายถูกออกดังนั้นตัวมันกก็จะใหญ่ขึ้นนั่นเอง

จากนั้นให้กรอกเบอร์โทรหรืออีเมลจากนั้นก็ใส่รหัสผ่านหากคุณจำรหรัสผ่านตรงนี้ไม่ได้ก็ถือว่าจบนะ เพราะมันจะไม่สามารถเข้าใช้เฟสบุ๊กได้อย่างแน่นอนจากนั้นกดปุ่มเพื่อเข้าสู่ระบบนั่นเอง

ถ้าหากว่ารหัสผ่านและอีเมลถูกต้องก็จะทำการเข้าได้เลย หากเข้าไม่ได้แสดงว่าไม่ถูกต้องนั่นเองจากนั้นจะมีข้อความให้เรานนั้นกรอกรหัสขึ้นอีกครั้งเพื่อเป็นการยืนยันตัวตนของเราอีกรอบโดยเรานี้จะต้องทำการกรอกใหม่เพื่อเป็นการยืนยันหากยืนยันได้แล้วก็จะสามารถเข้าใช้งานเฟสบุ๊กได้อย่างปกตินั่นเอง

Posted on

ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสาระสนเทศ 

มีใครรู้บ้างคะว่าคอมพิวเตอร์มีการพัฒนาการมาจากอะไร 

ซึ่งคอมพิวเตอร์นั้นมีการพัฒนาการมาจากการคำนวณโดยมาจากลูกคิดนั่นเอง โดยในปี พ.ศ. 2376 นั้น ชาร์ ล แบบเบจ เค้าได้ประดิษฐ์และคิดวิเคราะห์เรื่องหนึ่งขึ้นมา ซึ่งถือว่าเครื่องวิเคราะห์เป็นเครื่องมือต้นแบบของเครื่องคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันของเรานั่นเองและด้วยเหตุนี้ก็ได้มีการยกย่องให้ ชาร์ ล แบบเบจขึ้นเป็นบิดาแห่งคอมพิวเตอร์ และคุณรู้กันบ้างหรือไม่คะว่าใครคือโปรแกรมเมอร์คนแรกของโลกหลายคนอาจจะงงใช่ไหมคะซึ่งโปรแกรมเมอร์คนแรกของโลกนั่นก็คือเอด้าออกุสต้านั่นเอง 

ยุคของคอมพิวเตอร์โดยคอมพิวเตอร์สามารถ แบ่งออกเป็นห้ายุคด้วยกันและนั่นก็ได้แก่ 

ยุคที่หนึ่งเป็นการใช้คอมพิวเตอร์โดยการใช้หลอดสุญญากาศซึ่งเป็นการใช้กำลังไฟฟ้าสูงซึ่งมันมีปัญหาในเรื่องของความร้อนส่งผลให้ไส้หลอดขาดง่ายและบ่อยมาก 

ยุคที่สองเป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้ทานซิสเตอร์ มีแกนฟอร์ไลฟ์เป็นหน่วยเป็นความจำ 

คอมพิวเตอร์ยุคที่สามจะใช้วงจรไอทีและก็พิมพ์บนแผ่นลิค่อน แล้วก็จะใช้ชิปซึ่งจะทำให้คอมพิวเตอร์ยุคนี้มีขนาดเล็กลงและมีการนำโปรแกรมสำเร็จรูปมาใช้งาน  

คอมพิวเตอร์ยุคที่สี่มีการประดิษฐ์ไม่ครบโพรเซสเซอร์ขึ้นมาทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กและราคาถูกจึงทำให้มีเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเกิดขึ้นมาในยุคนี้ 

คอมพิวเตอร์ยุคที่ห้าจะมุ่งเน้นพัฒนาความสามารถของระบบคอมพิวเตอร์และระบบหน่วยความจำเพื่อเป็นการสะดวกในการใช้งานมีการสร้างคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะและเป็นการพกพาขนาดเล็กเพื่อเป็นการนำมาใช้ 

องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ 

คุณรู้มั้ยคะว่าองค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์นั้นมีอะไรบ้าง 

ส่วนประกอบของระบบคอมพิวเตอร์นะคะก็ประกอบ ไปด้วย 4 อย่าง ได้แก่ 

ฮาร์ดแวร์ 

ซอฟต์แวร์ 

บุคลากร 

ข้อมูล 

ฮาร์ดแวร์ก็คืออุปกรณ์สตางค์ที่ประกอบขึ้นเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์สามารถมองเห็นด้วยตาและก็สัมผัสจับต้องได้ไม่ว่าจะเป็นตัวเครื่องของคอมพิวเตอร์หรือเมนบอร์ดอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆซึ่งฮาร์ดแวร์ก็จะแบ่งออกเป็นห้าหน่วยย่อยได้แก่ 

หน่วยรับข้อมูล  โดยหน่วยรับข้อมูลจะทำหน้าที่รับข้อมูลจากคนแล้วส่งประเมินผล เพื่อทำการประมวลผลอุปกรณ์ประเภทหน่วยรับข้อมูลนะคะก็จะมีคีย์บอร์ดสำหรับคีย์บอร์ดนั้นจัดว่าเป็นอุปกรณ์รับข้อมูลเบื้องต้นเมาส์สแกนเนอร์อุปกรณ์สแกนลายนิ้วมือไมโครโฟนกล้องเว็บแคม 

หน่วยประมวลผลกลางหรือที่เราเรียกกันว่าซีพียูมีหน้าที่นำคำสั่งและข้อมูลที่เก็บไว้ในหน่วยความจำมาแปลความหมายและทำตามคำสั่งพื้นฐานของไมโครโปรเซสเซอร์ซีนพี่อยู่ถือได้ว่าเป็นสมองของ คอมพิวเตอร์เปรียบได้กับสมองของคนเรานั้นเองโดยความเร็วของซีพียูนะคะนับเป็นเมกะเฮิรตซนั่นเอง 

Posted on

ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์มีอะไรบ้าง

ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์มีดังนี้

คอมพิวเตอร์มีลักษณะเด่นอยู่หลายอย่างด้วยกันซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เรานั้นนำมันมาใช้ประโยชน์ในการดำเนินชีวิตในสังคมของเรานั่นเองโดยคอมพิวเตอร์นั้นสามารถพบเห็นได้บ่อยที่สุดนั่นก็คือ การนำไปใช้ในการพิมพ์เอกสารต่างๆอาทิเช่นการพิมพ์จดหมายหรือรายงานหรือเอกสารต่างๆที่ต้องใช้ในปัจจุบันเราจะเรียกงานเหล่านี้ว่าการประมวลผลนอกจากนั้นแล้วคอมพิวเตอร์ยังมีการประยุกต์ใช้ในรูปแบบ ต่างๆอีกหลายหลายด้านเช่นกันโดยจะมีดังต่อไปนี้

งานธุรกิจ

สำหรับงานธุรกิจนั้นสามารถแบ่งได้เช่นบริษัทร้านค้าห้างสรรพสินค้าตลอดจนโรงงานต่างๆซึ่งเป็นการใช้คอมด้วยกันทั้งสิ้น ดังเช่นการนำคอมพิวเตอร์ไปใช้ในการทำบัญชีหรืองานประมวลผลของคำหรืออาจจะเป็นการติดต่อกับหน่วยงานที่เป็นภายนอกระบบของการทำมนาคมนอกจากนี้แล้วก็ยังเป็นงานอุตสาหกรรมที่ส่วนใหญ่จะนำคอมพิวเตอร์ไปใช้ ในด้านของการ ควบคุมการผลิตหรือเป็นการควบคุมสำหรับการประกอบชิ้นส่วนต่างๆของอุปกรณ์ เช่นโรงงานที่ประกอบชิ้นส่วนรถยนต์ซึ่งมันจะส่งผลให้การผลิตชิ้นส่วนรถยนต์นั้นมีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น

นอกจากนั้นงานธนาคารที่เป็นการ ฝากและถอนของเงินกับตู้ที่เป็นอัตโนมัติและในหน่วยงานอื่นๆของธนาคารนั่นก็คือการคิดดอกเบี้ยให้กับผู้ฝากหรือการฝากโอนเงินระหว่างบัญชีซึ่งคอมพิวเตอร์นั้นเป็นการเชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบโดยการผ่าน เครือข่ายนั่นเอง

งานวิทยาศาสตร์

สำหรับงานวิทยาศาสตร์นั้นคอมพิวเตอร์จะเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องของการแพทย์และงานเกี่ยวกับสาธารณสุขเพราะเป็นการนำคอมพิวเตอร์นั้นเข้ามาใช้ในส่วนที่เป็นการคำนวณที่มีการคิดซับซ้อนดังเช่นงานศึกษาเกี่ยวกับโมเลกุลสารเคมี วิถีการโคจรของการส่งจรวดไปสู่อวกาศหรืออาจจะเป็นงานทะเบียนที่เกี่ยวข้องกับการเงินสถิตินอกจากนั้นยังเป็นอุปกรณ์สำหรับในการตรวจโรคต่างๆเพราะมันจะให้ผลที่แม่นยำกว่าการตรวจด้วยวิธีที่ใช้แบบเคมีเพื่อเป็นการตรวจนั่นเอง

งานคมนาคมและการสื่อสาร

เราจะเห็นได้ว่าคอมพิวเตอร์สามารถนำมาใช้เกี่ยวกับงานคมนาคมและการสื่อสารได้เป็นอย่างดีซึ่งจะนำเข้ามาใช้ในส่วนของการเดินทางโดยจะใช้คอมนั้นเป็นการจองวันและเวลาหรือที่นั่งซึ่งจะเป็นการนำให้มันเชื่อมโยงกับธีอื่น ไม่ว่าจะเป็น ทางสายการบินหรือสถานีต่างๆเพื่อเป็นการไม่ให้ต้องเสียเวลารอนาน

นอกจากนั้นยังเป็นการนำไปควบคุมไฟจราจรหรืออาจจะเป็นการจราจรทางอากาศเพื่อเป็นการสื่อสารเกี่ยวกับการควบคุมของวงจรของดาวเทียมเพื่อเป็นการทำ ให้อยู่ในวงโคจรซึ่งจะช่วยส่งผลสำหรับการส่งสัญญาณเพื่อให้ระบบสื่อสารเหล่านั้นมีความชัดเจนและติดต่อกันง่ายยิ่งขึ้น

หน่วยงานราชการ

หลายคนอาจสงสัยว่าคอมพิวเตอร์เกี่ยวข้องอะไรกับหน่วยงานราชการโดยหน่วยงานที่มีการใช้คอมพิวเตอร์มากที่สุดจะมีการใช้ที่หลากหลายรูปแบบโดยส่วนใหญ่นั้นขึ้นอยู่กับบทบาทและหน้าที่ของหน่วยงานดังเช่นกระทรวงศึกษาธิการโดยมีการใช้ระบบในการประชุมทางไกลผ่านทางคอมพิวเตอร์หรือแม้แต่กระทรวงวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีนั่นเอง

Posted on

คอมพิวเตอร์คืออะไร

คอมพิวเตอร์ถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่เข้ามามีความสำคัญในยุคนี้มากที่สุด โดยคอมพิวเตอร์นั้นสามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายวิธีด้วยกัน โดยเรานั้นอาจจะพูดได้ว่าไม่ว่าจะเป็นห้าง ร้าน หรือโรงเรียนก็ล้วนนำคอมพิวเตอร์ไปใช้ด้วยกันทั้งสิ้น ดังนั้นจึงคอมจึงเป็นสิ่งจำเป็นและเป็นสิ่งที่ตองเรียนรู้ โดยวิชาที่เรียนนั้นจะมีการเพิ่มการสอนเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เข้าไปในระบบของการเรียนอีกด้วย

ความหมายของคอมพิวเตอร์มีดังนี้

สำหรับคอมพิวเตอร์ที่เรารู้จักนั้นมาจากภาษาละตินว่า Computare ซึ่งก็คือการนับหรือการคำนวณ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ได้บอกความหมายของคอมพิวเตอร์ไว้ว่า “เครื่องอิเล็กทรอนิกส์แบบอัตโนมัติ ปฏิบัติหน้าที่เหมือนสมองกล ใช้สำหรับแก้ไขปัญหาต่างๆที่ง่ายและก็ซับซ้อนโดยวิธีทางคณิตศาสตร์”

คอมพิวเตอร์ก็เลยเป็นเครื่องจักรอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกผลิตขึ้นเพื่อใช้ปฏิบัติงานแทนมนุษย์ ในด้านการคิดและการคำนวณรวมทั้งสามารถจำข้อมูลทั้งตัวเลขและก็ตัวหนังสือได้เพื่อการเรียกใช้งานในครั้งถัดไปนอกจากนั้น ยังสามารถจัดการกับสัญลักษณ์ได้ด้วยความเร็วสูงโดยปฏิบัติตามขั้นตอนของโปรแกรม คอมพิวเตอร์ยังมีความสามารถในด้านต่างๆอีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น การเปรียบเทียบทางตรรกศาสตร์ การรับส่งข้อมูล การจัดเก็บ ข้อมูลในตัวเครื่องแล้วก็สามารถประเมินผลจากข้อมูลต่างๆได้

การทำงานของคอมพิวเตอร์มีดังนี้

คอมพิวเตอร์ไม่ว่าจะเป็นชนิดใดก็ตาม จะมีลักษณะรูปแบบการทำงานของส่วนต่างๆที่มีความเชื่อมโยงกันเป็นกระบวนการ โดยมีองค์ประกอบพื้นฐานหลักเป็น Input Process แล้วก็ output ซึ่งมีขั้นตอนการทำงานดังต่อไปนี้

ขั้นตอนที่ 1 : รับข้อมูลเข้า (Input)

เริ่มจากด้วยการนำข้อมูลเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่สามารถผ่านทางอุปกรณ์ประเภทต่างๆแล้วแต่ประเภทของข้อมูลที่จะป้อนเข้าไป ตัวอย่างเช่น ถ้าหากเป็นการพิมพ์ข้อมูลจะใช้แผงแป้นพิมพ์หรือ (Keyboard) เพื่อพิมพ์เนื้อหาข้อความหรือโปรแกรมเข้าเครื่อง ถ้าหากเป็นการเขียนภาพจะใช้เครื่องอ่านพิกัดภาพกราฟิค (Graphics Tablet) โดยมีปากกาประเภทพิเศษสำหรับเขียนภาพ หรือถ้าหากเป็นการเล่นเกมก็จะมีก้านควบคุม (Joystick) สำหรับเคลื่อนตำแหน่งของ การเล่นบนจอภาพ เป็นต้น

ขั้นตอนที่ 2 : ประมวลผลข้อมูล (Process)

เมื่อนำข้อมูลเข้ามาแล้ว เครื่องจะจัดการกับข้อมูลตามคำสั่งที่ได้รับมาเพื่อได้ผลลัพธ์ดังที่อยากได้ การประมวลผลอาจจะมีได้หลายประเภท ได้แก่ นำข้อมูลมาหาผลรวม นำข้อมูลมาจัดกลุ่ม นำข้อมูลมาหาค่ามากที่สุด หรือน้อยที่สุด เป็นต้น

ขั้นตอนที่ 3 : แสดงผลลัพธ์ (Output)

โดยจะเป็นการที่เรานั้นนำผลลัพธ์ซึ่งได้จากการประมวลผลเพื่อนำมาแสดงให้ทราบทางอุปกรณ์ที่เป็นการกำหนดไว้นั่นเอง ซึ่งในหลักการทั่วไปจะเป็นการแสดงทางจอภาพหรือที่เรารู้จักที่มีชื่อเรียกว่า”จอมอนิเตอร์” (Monitor)หรือจะพิมพ์ข้อมูลออกทางกระดาษโดยใช้เครื่องพิมพ์ก็ได้เช่นกัน

Posted on

คอมพิวเตอร์เบื้องต้นที่เราควรรู้

สำหรับการแบ็คอัพและเรียกคืนข้อมูลเบื้องต้นมีดังนี้

ต้องบอกก่อนนะว่าหาก BIOS ทำการค้นหาในเรื่องของระบบปฏิบัติการที่จะเป็นกระบวนการของวินโดวส์มีการได้ค้นพบเจอแล้วจะทำให้ไฟล์เหล่านั้นได้ถูกการดาวน์โหลดมาเพื่อนำมาเก็บไว้ที่หน่วความจำที่เราเรียกว่าแรม(RAM) ในทางปกติแล้วเราจะทำการดาวน์โหลดไฟล์จากระบบที่เป็นฮาร์ดดิสก์ต่อจากนั้นไฟล์ระบบก็จะทำการทำงานของมันโดยการดาวน์โหลดโครงสร้างหรือเคอร์เนล(Kernel)เป็นการกระทำของระบบปฎิบัติการวินโดวส์ซึ่งจะนำไปสู่กระบวนการทำงานของรูปแบบของคอมพิวเตอร์นั่นเอง

สำหรับขั้นตอนในการทำในระบบของลำดับสุดท้ายระบบปฏิบัติการวินโดวส์จะกระทำการดาวน์โหลดสำหรับข้อมูลที่เกี่ยวกับการทำคอนฟิกต่างๆไม่ว่าจะเป็นระบบในรูปแบบของเวอร์ชั่นวินโดวส์ รีจิสทรี โพร์ไฟล์ ก็ได้เช่นกันดังนั้นหากมีการทำเสร็จจากระบบเหล่านี้ก็ถือได้ว่าเสร็จสมบูรณ์และเราก็สามารถใช้งานเกี่ยวกับการเล่นวินโดวส์ได้เลย

ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ มีดังนี้

สำหรับส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์เหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นสิ่งจำเป็นเรียกว่ำเป็นอย่างมากที่เราจะต้องทำความเข้าใจเพื่อให้เราสามารถหาวิธีแก้ไขหีรือป้องกันและบำรุงรักษา อาจจะมีการซ่อมแซมคอมพิวเตอร์ได้อย่างตรงจุดโดยแบ่งเป็น 2 อย่าง คือ ฮาร์ดแวร์ และ ซอฟต์แวร์

ขยายความคำว่า ฮาร์ดแวร์

ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ก็คืออุปกรณ์ที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ที่เราได้นำมาติดตั้งไว้ในคอมพิวเตอร์นั่นเอง

โดยจะมีหน้าที่หลักทำงานอยู่หลากหลายอย่างซึ่งมันจะถูกควบคุมการทำงานโดยซอฟต์แวร์ และมันจะมีส่วนประกอบทั้งหมดได้แก่

ซีพียู (CPU : Central Processing Unit) เราอาจเปรียบได้ว่ามันคือศูนย์รวมกลไกลของคอมพิวเตอร์หรืออาจจะมองได้ว่าเป็นสมองของมันเลยเพราะการทำงานของมันสามารถสั่งงานและครอบคลุมระบบของมันทั้งหมดและยังแบ่งจ่ายการทำงานอย่างเป็นระบบให้ถูกต้องอีกด้วย

ในส่วนของซีพียูนี้ จะมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทำงานอยู่ภายในของระบบเราสามารถเรียกสิ่งเหล่านี้ได้ว่าทรานซิสเตอร์ ดังนั้นเจ้าตัวทรานซิสเตอร์นี้จะมีหลายตัวด้วยกันเพราะการแยกการทำงานนั้นมันจะสามารถจำและบันทึกคำสั่งมากมายเพื่อเป็นการนำไปใช้ในการประมวนผลออกมาและเป็นการทำงานตามจังหวะสัญญาณนาฬิกา (Clock)นั่นเอง

สำหรับการประมวนผลในหนึ่งครั้งการทำงานจะเป้นคลื่นความถี่ต่อวินาทีเลยซึ่งเราจะเรียกหน่วยความจำของซีพียูเหล่านี้ว่าเฮิรตซ์ (Hz)หน่วยความจำแคช (Cache Memory) สำหรับเพื่อเป็นคลังเก็บข้อมูลชั่วคราวที่มีขนาดย่อย

โดยมีการเก็บคำสั่งเหล่านี้และข้อมูลเกี่ยวข้องที่เราใช้งานบ่อยๆแต่ทั้งหมดนี้จะมีความจำที่มีไซต์เล็กกว่าหน่วยความจำของแรมและฮาร์ดดิสก์ อย่างที่ทราบกันดีว่าหน่วยความจำแคชจะเป็นการทำงานอยู่ระหว่างซีพียูและหน่วยความจำของแรม เพื่อเป็นการช่วยให้ในขั้นตอนของการประมวลผลการทำงานของซีพียูทำงานได้เร็วขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องเสียเวลาค้นหาข้อมูลจากหน่วยความจำแรม และฮาร์ดดิสก์