Posted on

คอมพิวเตอร์คืออะไร

คอมพิวเตอร์ถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่เข้ามามีความสำคัญในยุคนี้มากที่สุด โดยคอมพิวเตอร์นั้นสามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายวิธีด้วยกัน โดยเรานั้นอาจจะพูดได้ว่าไม่ว่าจะเป็นห้าง ร้าน หรือโรงเรียนก็ล้วนนำคอมพิวเตอร์ไปใช้ด้วยกันทั้งสิ้น ดังนั้นจึงคอมจึงเป็นสิ่งจำเป็นและเป็นสิ่งที่ตองเรียนรู้ โดยวิชาที่เรียนนั้นจะมีการเพิ่มการสอนเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เข้าไปในระบบของการเรียนอีกด้วย

ความหมายของคอมพิวเตอร์มีดังนี้

สำหรับคอมพิวเตอร์ที่เรารู้จักนั้นมาจากภาษาละตินว่า Computare ซึ่งก็คือการนับหรือการคำนวณ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ได้บอกความหมายของคอมพิวเตอร์ไว้ว่า “เครื่องอิเล็กทรอนิกส์แบบอัตโนมัติ ปฏิบัติหน้าที่เหมือนสมองกล ใช้สำหรับแก้ไขปัญหาต่างๆที่ง่ายและก็ซับซ้อนโดยวิธีทางคณิตศาสตร์”

คอมพิวเตอร์ก็เลยเป็นเครื่องจักรอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกผลิตขึ้นเพื่อใช้ปฏิบัติงานแทนมนุษย์ ในด้านการคิดและการคำนวณรวมทั้งสามารถจำข้อมูลทั้งตัวเลขและก็ตัวหนังสือได้เพื่อการเรียกใช้งานในครั้งถัดไปนอกจากนั้น ยังสามารถจัดการกับสัญลักษณ์ได้ด้วยความเร็วสูงโดยปฏิบัติตามขั้นตอนของโปรแกรม คอมพิวเตอร์ยังมีความสามารถในด้านต่างๆอีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น การเปรียบเทียบทางตรรกศาสตร์ การรับส่งข้อมูล การจัดเก็บ ข้อมูลในตัวเครื่องแล้วก็สามารถประเมินผลจากข้อมูลต่างๆได้

การทำงานของคอมพิวเตอร์มีดังนี้

คอมพิวเตอร์ไม่ว่าจะเป็นชนิดใดก็ตาม จะมีลักษณะรูปแบบการทำงานของส่วนต่างๆที่มีความเชื่อมโยงกันเป็นกระบวนการ โดยมีองค์ประกอบพื้นฐานหลักเป็น Input Process แล้วก็ output ซึ่งมีขั้นตอนการทำงานดังต่อไปนี้

ขั้นตอนที่ 1 : รับข้อมูลเข้า (Input)

เริ่มจากด้วยการนำข้อมูลเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่สามารถผ่านทางอุปกรณ์ประเภทต่างๆแล้วแต่ประเภทของข้อมูลที่จะป้อนเข้าไป ตัวอย่างเช่น ถ้าหากเป็นการพิมพ์ข้อมูลจะใช้แผงแป้นพิมพ์หรือ (Keyboard) เพื่อพิมพ์เนื้อหาข้อความหรือโปรแกรมเข้าเครื่อง ถ้าหากเป็นการเขียนภาพจะใช้เครื่องอ่านพิกัดภาพกราฟิค (Graphics Tablet) โดยมีปากกาประเภทพิเศษสำหรับเขียนภาพ หรือถ้าหากเป็นการเล่นเกมก็จะมีก้านควบคุม (Joystick) สำหรับเคลื่อนตำแหน่งของ การเล่นบนจอภาพ เป็นต้น

ขั้นตอนที่ 2 : ประมวลผลข้อมูล (Process)

เมื่อนำข้อมูลเข้ามาแล้ว เครื่องจะจัดการกับข้อมูลตามคำสั่งที่ได้รับมาเพื่อได้ผลลัพธ์ดังที่อยากได้ การประมวลผลอาจจะมีได้หลายประเภท ได้แก่ นำข้อมูลมาหาผลรวม นำข้อมูลมาจัดกลุ่ม นำข้อมูลมาหาค่ามากที่สุด หรือน้อยที่สุด เป็นต้น

ขั้นตอนที่ 3 : แสดงผลลัพธ์ (Output)

โดยจะเป็นการที่เรานั้นนำผลลัพธ์ซึ่งได้จากการประมวลผลเพื่อนำมาแสดงให้ทราบทางอุปกรณ์ที่เป็นการกำหนดไว้นั่นเอง ซึ่งในหลักการทั่วไปจะเป็นการแสดงทางจอภาพหรือที่เรารู้จักที่มีชื่อเรียกว่า”จอมอนิเตอร์” (Monitor)หรือจะพิมพ์ข้อมูลออกทางกระดาษโดยใช้เครื่องพิมพ์ก็ได้เช่นกัน

Posted on

คอมพิวเตอร์เบื้องต้นที่เราควรรู้

สำหรับการแบ็คอัพและเรียกคืนข้อมูลเบื้องต้นมีดังนี้

ต้องบอกก่อนนะว่าหาก BIOS ทำการค้นหาในเรื่องของระบบปฏิบัติการที่จะเป็นกระบวนการของวินโดวส์มีการได้ค้นพบเจอแล้วจะทำให้ไฟล์เหล่านั้นได้ถูกการดาวน์โหลดมาเพื่อนำมาเก็บไว้ที่หน่วความจำที่เราเรียกว่าแรม(RAM) ในทางปกติแล้วเราจะทำการดาวน์โหลดไฟล์จากระบบที่เป็นฮาร์ดดิสก์ต่อจากนั้นไฟล์ระบบก็จะทำการทำงานของมันโดยการดาวน์โหลดโครงสร้างหรือเคอร์เนล(Kernel)เป็นการกระทำของระบบปฎิบัติการวินโดวส์ซึ่งจะนำไปสู่กระบวนการทำงานของรูปแบบของคอมพิวเตอร์นั่นเอง

สำหรับขั้นตอนในการทำในระบบของลำดับสุดท้ายระบบปฏิบัติการวินโดวส์จะกระทำการดาวน์โหลดสำหรับข้อมูลที่เกี่ยวกับการทำคอนฟิกต่างๆไม่ว่าจะเป็นระบบในรูปแบบของเวอร์ชั่นวินโดวส์ รีจิสทรี โพร์ไฟล์ ก็ได้เช่นกันดังนั้นหากมีการทำเสร็จจากระบบเหล่านี้ก็ถือได้ว่าเสร็จสมบูรณ์และเราก็สามารถใช้งานเกี่ยวกับการเล่นวินโดวส์ได้เลย

ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ มีดังนี้

สำหรับส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์เหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นสิ่งจำเป็นเรียกว่ำเป็นอย่างมากที่เราจะต้องทำความเข้าใจเพื่อให้เราสามารถหาวิธีแก้ไขหีรือป้องกันและบำรุงรักษา อาจจะมีการซ่อมแซมคอมพิวเตอร์ได้อย่างตรงจุดโดยแบ่งเป็น 2 อย่าง คือ ฮาร์ดแวร์ และ ซอฟต์แวร์

ขยายความคำว่า ฮาร์ดแวร์

ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ก็คืออุปกรณ์ที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ที่เราได้นำมาติดตั้งไว้ในคอมพิวเตอร์นั่นเอง

โดยจะมีหน้าที่หลักทำงานอยู่หลากหลายอย่างซึ่งมันจะถูกควบคุมการทำงานโดยซอฟต์แวร์ และมันจะมีส่วนประกอบทั้งหมดได้แก่

ซีพียู (CPU : Central Processing Unit) เราอาจเปรียบได้ว่ามันคือศูนย์รวมกลไกลของคอมพิวเตอร์หรืออาจจะมองได้ว่าเป็นสมองของมันเลยเพราะการทำงานของมันสามารถสั่งงานและครอบคลุมระบบของมันทั้งหมดและยังแบ่งจ่ายการทำงานอย่างเป็นระบบให้ถูกต้องอีกด้วย

ในส่วนของซีพียูนี้ จะมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทำงานอยู่ภายในของระบบเราสามารถเรียกสิ่งเหล่านี้ได้ว่าทรานซิสเตอร์ ดังนั้นเจ้าตัวทรานซิสเตอร์นี้จะมีหลายตัวด้วยกันเพราะการแยกการทำงานนั้นมันจะสามารถจำและบันทึกคำสั่งมากมายเพื่อเป็นการนำไปใช้ในการประมวนผลออกมาและเป็นการทำงานตามจังหวะสัญญาณนาฬิกา (Clock)นั่นเอง

สำหรับการประมวนผลในหนึ่งครั้งการทำงานจะเป้นคลื่นความถี่ต่อวินาทีเลยซึ่งเราจะเรียกหน่วยความจำของซีพียูเหล่านี้ว่าเฮิรตซ์ (Hz)หน่วยความจำแคช (Cache Memory) สำหรับเพื่อเป็นคลังเก็บข้อมูลชั่วคราวที่มีขนาดย่อย

โดยมีการเก็บคำสั่งเหล่านี้และข้อมูลเกี่ยวข้องที่เราใช้งานบ่อยๆแต่ทั้งหมดนี้จะมีความจำที่มีไซต์เล็กกว่าหน่วยความจำของแรมและฮาร์ดดิสก์ อย่างที่ทราบกันดีว่าหน่วยความจำแคชจะเป็นการทำงานอยู่ระหว่างซีพียูและหน่วยความจำของแรม เพื่อเป็นการช่วยให้ในขั้นตอนของการประมวลผลการทำงานของซีพียูทำงานได้เร็วขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องเสียเวลาค้นหาข้อมูลจากหน่วยความจำแรม และฮาร์ดดิสก์