Posted on

ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสาระสนเทศ 

มีใครรู้บ้างคะว่าคอมพิวเตอร์มีการพัฒนาการมาจากอะไร 

ซึ่งคอมพิวเตอร์นั้นมีการพัฒนาการมาจากการคำนวณโดยมาจากลูกคิดนั่นเอง โดยในปี พ.ศ. 2376 นั้น ชาร์ ล แบบเบจ เค้าได้ประดิษฐ์และคิดวิเคราะห์เรื่องหนึ่งขึ้นมา ซึ่งถือว่าเครื่องวิเคราะห์เป็นเครื่องมือต้นแบบของเครื่องคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันของเรานั่นเองและด้วยเหตุนี้ก็ได้มีการยกย่องให้ ชาร์ ล แบบเบจขึ้นเป็นบิดาแห่งคอมพิวเตอร์ และคุณรู้กันบ้างหรือไม่คะว่าใครคือโปรแกรมเมอร์คนแรกของโลกหลายคนอาจจะงงใช่ไหมคะซึ่งโปรแกรมเมอร์คนแรกของโลกนั่นก็คือเอด้าออกุสต้านั่นเอง 

ยุคของคอมพิวเตอร์โดยคอมพิวเตอร์สามารถ แบ่งออกเป็นห้ายุคด้วยกันและนั่นก็ได้แก่ 

ยุคที่หนึ่งเป็นการใช้คอมพิวเตอร์โดยการใช้หลอดสุญญากาศซึ่งเป็นการใช้กำลังไฟฟ้าสูงซึ่งมันมีปัญหาในเรื่องของความร้อนส่งผลให้ไส้หลอดขาดง่ายและบ่อยมาก 

ยุคที่สองเป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้ทานซิสเตอร์ มีแกนฟอร์ไลฟ์เป็นหน่วยเป็นความจำ 

คอมพิวเตอร์ยุคที่สามจะใช้วงจรไอทีและก็พิมพ์บนแผ่นลิค่อน แล้วก็จะใช้ชิปซึ่งจะทำให้คอมพิวเตอร์ยุคนี้มีขนาดเล็กลงและมีการนำโปรแกรมสำเร็จรูปมาใช้งาน  

คอมพิวเตอร์ยุคที่สี่มีการประดิษฐ์ไม่ครบโพรเซสเซอร์ขึ้นมาทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กและราคาถูกจึงทำให้มีเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเกิดขึ้นมาในยุคนี้ 

คอมพิวเตอร์ยุคที่ห้าจะมุ่งเน้นพัฒนาความสามารถของระบบคอมพิวเตอร์และระบบหน่วยความจำเพื่อเป็นการสะดวกในการใช้งานมีการสร้างคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะและเป็นการพกพาขนาดเล็กเพื่อเป็นการนำมาใช้ 

องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ 

คุณรู้มั้ยคะว่าองค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์นั้นมีอะไรบ้าง 

ส่วนประกอบของระบบคอมพิวเตอร์นะคะก็ประกอบ ไปด้วย 4 อย่าง ได้แก่ 

ฮาร์ดแวร์ 

ซอฟต์แวร์ 

บุคลากร 

ข้อมูล 

ฮาร์ดแวร์ก็คืออุปกรณ์สตางค์ที่ประกอบขึ้นเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์สามารถมองเห็นด้วยตาและก็สัมผัสจับต้องได้ไม่ว่าจะเป็นตัวเครื่องของคอมพิวเตอร์หรือเมนบอร์ดอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆซึ่งฮาร์ดแวร์ก็จะแบ่งออกเป็นห้าหน่วยย่อยได้แก่ 

หน่วยรับข้อมูล  โดยหน่วยรับข้อมูลจะทำหน้าที่รับข้อมูลจากคนแล้วส่งประเมินผล เพื่อทำการประมวลผลอุปกรณ์ประเภทหน่วยรับข้อมูลนะคะก็จะมีคีย์บอร์ดสำหรับคีย์บอร์ดนั้นจัดว่าเป็นอุปกรณ์รับข้อมูลเบื้องต้นเมาส์สแกนเนอร์อุปกรณ์สแกนลายนิ้วมือไมโครโฟนกล้องเว็บแคม 

หน่วยประมวลผลกลางหรือที่เราเรียกกันว่าซีพียูมีหน้าที่นำคำสั่งและข้อมูลที่เก็บไว้ในหน่วยความจำมาแปลความหมายและทำตามคำสั่งพื้นฐานของไมโครโปรเซสเซอร์ซีนพี่อยู่ถือได้ว่าเป็นสมองของ คอมพิวเตอร์เปรียบได้กับสมองของคนเรานั้นเองโดยความเร็วของซีพียูนะคะนับเป็นเมกะเฮิรตซนั่นเอง