Posted on

โซเชียลพาซวย  เมียโพสต์อวดผัวสายเปย์  สุดท้ายผัวโดนพักงาน 

           ในยุคปัจจุบันที่คนให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องของ Social ทำให้ผู้คนนั้นต่างก็ออกมาแสดงความคิดเห็นรวมถึงมาโพสต์อวดสิ่งต่างๆมากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Lifestyle ของตนเองอย่างเช่นเดินทางไปเที่ยวที่ไหน ,  Shopping  สินค้าอะไรมา หรือแม้แต่อย่าไปทานอาหารที่ร้านอะไร หน้าตาของอาหารและขนมหวานเป็นแบบไหน  เป็นต้น 

       โซเชียลพาซวย  เมียโพสต์อวดผัวสายเปย์   อย่างไรก็ตามมีหลายครั้งที่มีผู้คนออกมาเตือนเกี่ยวกับเรื่องของการโพสต์ Lifestyle ของตนเองว่าบางครั้งก็ส่งผลเสียมากกว่าผลดี

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการโพสต์ข้อมูลส่วนตัวอย่างเช่นบัตรประชาชนหรือแม้แต่ใบขับขี่ รวมถึงการเช็กอินสถานที่ท่องเที่ยวและการเช็คอินบ้านที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน  ข้อมูลต่างๆเหล่านี้อาจจะทำให้คนร้ายที่เข้ามาติดตามโซเชียลของเรารับรู้ความเป็นไปมาของเราและอาจจะส่งผลเสียต่อเราได้เพราะคนร้ายอาจจะตามมาถึงที่อยู่ของเราและเข้ามาขโมยทรัพย์สินหรือนำข้อมูลส่วนตัวของเราไปทำการแฮ้กเงินออกจากบัญชีธนาคารได้ ซึ่งปัญหาต่างๆเหล่านี้เรามักพบเห็นตามข่าวอยู่บ่อยครั้ง  

         ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 เดือนสิงหาคม ปีพ.ศ. 2565 เว็บไซต์ชื่อดังของต่างประเทศอย่าง World of blus ได้มีการเปิดเผยเรื่องราวของหญิงสาวชาวจีนคนหนึ่งเธอได้มีการโพสต์ Lifestyle ของเธอว่าเธอนั้นใช้ชีวิตหรูหรามากแค่ไหน โดยหญิงสาวรายนี้เธอได้มีการโพสต์อวดด้วยว่าและLifestyle ของเธอทั้งหมดนี้เกิดขึ้นมาจากสามีของเธอที่สามารถเปย์ และตามใจเธอได้  นอกจากนี้เธอยังได้เลยบอกด้วยว่าสามีของเธอนั้นอายุยังไม่มากแต่ทำงานบริษัทที่มีชื่อเสียงและได้เงินเดือนดี

        อย่างไรก็ตาม ปัญหาจะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าหากว่าหญิงสาวรายนี้เธอไม่ได้มีการนำหนังสือรับรองเงินเดือนของสามีของเธอมาโพสต์ลงในโลกออนไลน์  ซึ่งอย่างที่เรารู้กันดีว่าโดยปกติแล้วบริษัทส่วนใหญ่มักจะไม่อนุญาตให้พนักงานของตนเองมีการเปิดเผยสลิปเงินเดือนหรือข้อมูลเงินเดือนของตนเอง  แทงหวย    ให้กับบุคคลอื่นได้รับรู้เพราะถือว่าเป็นข้อมูลส่วนตัวและยังเป็นนโยบายของทางบริษัท

        อย่างนั้นเมื่อหญิงสาวรายนี้นำหนังสือรับรองเงินเดือนของสามีของเธอมาโพสต์ในโลกออนไลน์ก็ทำให้บริษัทที่สามีของเธอทำงานอยู่ได้เห็นข้อมูลดังกล่าวจึงเป็นที่มาของการเรียกสามีของเธอไปทำการตรวจสอบนอกจากนี้ยังมีการพักงานสามีของหญิงสาวรายนี้อีกด้วย 

           ดังนั้นเราจะเห็นว่าการโพสต์ข้อมูลลงในโลกออนไลน์หรือในโซเชียลนั้นไม่สามารถที่จะโพสต์ได้ทุกเรื่องหรือทุกอย่างเราควรที่จะพิจารณาให้รอบคอบก่อนที่จะมีการโพสต์เกี่ยวกับเรื่องอะไรเพราะถ้าหากมีการโพสต์ลงไปแล้วอาจจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดีตามมาก็ได้เช่นเดียวกัน

Posted on

เครื่องแยกโพรพิลีน

สำหรับเรื่องราวที่เรากำลังจะพูดถึงในวันนี้  เราจะมาพูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาบนโลกและมันก็เกิดขึ้นจากฝีมือมนุษย์อย่างเราอีกด้วย 

มนุษย์นั้นมีความเฉลียวฉลาดเป็นอย่างมาก  ด้วยความเฉลียวฉลาดของตนเองทำให้โลกของเราในยุคปัจจุบันนี้  เต็มไปด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆที่มีความทันสมัยที่มนุษย์อย่างเราได้นำมาใช้ในการอำนวยความสะดวก  ในชีวิตประจำวันด้านต่างๆ  แน่นอนว่าสำหรับเรื่องที่เราจะพูดถึงในวันนี้ก็น่าสนใจไม่แพ้กันเลยทีเดียว 

มีสิ่งที่เรายังรู้จักมากมายที่เราไปทำความรู้จักกัน  แน่นอนว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาบนโลกของเรานั้นมีอยู่มากมายหลากหลายรูปแบบ 

ซึ่งจะพาทุกคนไปทำความรู้จักในวันนี้นั้น เป็นเครื่องจักรยักษ์ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาเคยบรรทุกบนท้องถนน  สำหรับเรื่องราวต่างๆมากมาย เกี่ยวข้องเทคโนโลยีหรือว่านวัตกรรมมากมายที่เกิดขึ้นมาบนท้องถนนนั้น  สิ่งที่เราควรศึกษาไว้เป็นอย่างมาก เพราะเป็นนวัตกรรมที่มีการใช้รถบรรทุก ชิ้นส่วนชองเครื่องจักรขนาดใหญ่ ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ ในลักษณะการบรรทุกแบบนี้

เครื่องแยกโพรพิลีน  เพราะการบรรทุกชิ้นส่วนเครื่องแยกโพลีน ที่ใช้ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี เครื่องนี้กินพื้นที่ถนนทางหลวงและไหล่ทาง ใช้ระยะเวลาในการบรรทุกสินค้าตัวนี้ ไปถึงที่หมาย ใช้เวลายาวนาน ถึง 4 วัน เต็ม  โดยชิ้นส่วนเครื่องจักร  มีความยาวตั้งแต่หัวจรดท้ายขบวนถึง 179 เมตร  ส่วนตัวเครื่องก็ไม่น้อยหน้ามีความกว้าง 5.5 เมตร ยาว 19 เมตรและหนักถึง 80 ตัน ขั้นตอนการขนส่งดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อช่วงต้นปี 2019

โดยความรับผิดชอบของบริษัทอินเตอร์ไซต์  ออกเดินทางจากทิศใต้ของเมืองอัลเบอร์ต้า ประเทศแคนาดา 

มีจุดหมายอยู่ที่โครงการพัฒนาปิโตรเคมี การเดินทางขนส่ง เครื่องจักร ดังกล่าว ค่อยๆเคลื่อนตัวผ่านทางหลวงสายหลัก และหักเลี้ยวไปตามเส้นทาง อย่างระมัดระวังมากที่สุด ซึ่งการขนส่งครั้งนี้ มีการประสานเส้นทาง จากหน่วยงานของรัฐบาล ที่มีการประสานเส้นทาง ที่ไม่ให้กระทบกับผู้โดยสารเส้นทางดังกล่าว ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 4 วัน รวมเป็นระยะทางทั้งสิ้นกว่า 125 กิโลเมตร 

ทางรัฐบาลของประเทศประเทศแคนาดา  กล่าวว่าการขนส่งครั้งนี้  ถือว่าเป็นครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศ ที่ต้องจารึกกันเลย นอกจากเรื่องราวที่เราได้กล่าวไป สำหรับการขนส่งครั้งนี้  ก็มีหลายสิ่งหลายอย่างต่างๆมากมายเป็นอย่างมากที่เกิดขึ้นมาบนโลกของเรายิ่งเป็นในยุคปัจจุบันนี้  ที่อะไรหลายๆอย่างเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

แน่นอนว่าเรื่องราวที่เราที่กล่าวไว้ข้างต้นนั้น  ก็หวังว่าจะเป็นเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆให้กับใครหลายๆคน  ถ้าหากสนใจศึกษาเรื่องราวเหล่านี้เพิ่มเติมไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย หรือว่าคุณจะลองศึกษาเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดูก็สามารถที่จะทำได้ง่ายๆสำหรับในปัจจุบันนี้

 

สนับสนุนโดย  alpha88

Posted on

สายอาชีพที่เกี่ยวกับโปรแกรมเมอร์

ตำแหน่งสายงานไอที ที่ว่าเงินเดือนสูงนั้นจริงๆแล้วมันมีตำแหน่งอะไรกันบ้าง มีเพียงแค่โปรแกรมเมอร์หรือเปล่า และโปรแกรมเมอร์แต่ละประเภทต่างกันอย่างไร ซึ่งวันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังกันว่าตำแหน่งสายงานไอที แต่ละประเภทมันมีความแตกต่างกันอย่างไรและหน้าที่หรือวิธีการที่เขาทำงานมันมีความแตกต่างกันหรือไม่ 

โดยตำแหน่งสายงานที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมเมอร์มันมีอยู่เยอะมากๆ ยกตัวอย่างเช่น Front End Back End

สายอาชีพที่เกี่ยวกับโปรแกรมเมอร์ วันนี้เราจะมาพูดแต่ละตำแหน่ง เริ่มตั้งแต่ Front End ซึ่ง front-end นั้นมันคือ คนที่ทำหน้าตา หรือเว็บ ที่คุณเห็นว่ามันสวยๆงามๆหรือไม่สวยอะไรก็ตามแต่นั่นคือตำแหน่งที่เรียกว่า Front End ส่วน Back End คือคนทำกระบวนการคิดเบื้องหลังยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราบอกว่า Front End ก็คือคนที่ทำว่า หน้าตาแบบฟอร์ม กรอกข้อมูลสวยงามอย่างไร ทำปุ่มให้คลิกได้ 

Back End คือคนที่ถามว่าปุ่มนั้น คลิกแล้วและเกิด Action อย่างไรเช่นคลิกแล้ว เราจะรู้ได้ไงว่า User นี้ เป็น Password ของเราผิดหรือถูก หรือเป็นฟอร์ม 2 ช่อง เป็นฟอร์มของ Google เมื่อพิมพ์ search ไปแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าจะต้องเอาข้อมูลอะไรมาแสดง Front-end อาจจะเป็นตำแหน่งที่จัดการการแสดงผลEffect และลูกเล่นต่างๆ 

แต่ Back End คือตำแหน่งที่จะไปประมวลผลก็จะตอบมาว่าแสดงเป็นข้อมูลจากนั้นก็ส่งไปให้ Front End เป็นคนแสดง นี่คือ 2 ตำแหน่ง หลักๆFull Stack developer คืออะไร เป็นตำแหน่งที่จะควบรวม โดยปกติก็คือควบรวม 2 อันก็คือ Front End กับ  Back End เข้าด้วยกัน

หมายความว่าเขาคนนี้ทำ 2 อันเลย สามารถที่จะทำได้ทั้งคู่ หรือเป็นซอฟต์แวร์ใด offers Software developer เราต้องบอกแบบนี้ว่ามันต้องขึ้นอยู่กับบริษัทเลย ที่นี้แปลว่าคุณก็ต้องไปอ่านในJob Description ว่านิยามของซอฟต์แวร์ ดรอปเปอร์ หรือบางที่เขาเรียกว่าโปรแกรมเมอร์ 

ซึ่งทั้งสองตำแหน่งนี้ในบริษัทนั้นคุณจะต้องทำอะไรคุณก็ต้องเข้าไปดูในรายละเอียดงาน ว่าสำหรับบริษัทนั้น ภาระที่จะต้องรับผิดชอบคือจะต้องทำสิ่งนี่ๆจริงๆแล้วมันอาจจะเป็น การทำ Back End ก็ได้ หรือคัทเอาท์ Frog n ก็ได้ หรืออาจจะหมายถึงFull Stack 

นอกจากนี้ Software developer ปัจจุบันเราจะไม่ค่อยเห็นชัดๆ ว่าเป็นSoftware developer สักเท่าไหร่    หวยดี     แต่บางความหมายบางทีก็หมายความว่าSoftware developerคือคนที่ทำ full Stack คือคนที่ทำตั้งแต่หน้าบ้านคือFront End

บางคนก็บอกว่า Software developer คือทำเฉพาะ  Front Endหรือบางคนก็บอกว่าเว็บSoftware developerคุณไปทำบนพื้นฐานของCms ก็คือเป็นซอฟต์แวร์ กึ่งสำเร็จรูปประมาณ 1 เราก็เรียกสิ่งนั้นว่าSoftware developerหรือ mobile Software developerจริงๆแล้วมันก็ถูกแยกออกเป็น 2 สายด้วยกันไม่ว่าจะเป็น IOS และ Android

Posted on

พฤติกรรมออนไลน์ของเราสามารถเพิ่มผลกระทบได้

การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ พฤติกรรมออนไลน์ ที่มีต่อพฤติกรรมออนไลน์ของเราสามารถเพิ่มผลกระทบได้อย่างมีนัยสำคัญอย่างน่าประหลาดใจ ท้ายที่สุด

ทุกปฏิสัมพันธ์ทางดิจิทัลที่เราส่งผลกระทบโดยตรงต่อการปล่อยมลพิษ หากผู้ใหญ่ชาวอังกฤษทุกคนส่งอีเมล “ขอบคุณ” น้อยลง ประเทศชาติสามารถประหยัดคาร์บอนได้ 16,433 ตันต่อปี แน่นอน หากทางเลือกคือระหว่างการเดินทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งโดยเครื่องบิน หรือส่งอีเมลหรือโทรผ่านวิดีโอ แนวทางดิจิทัลนั้นสร้างความเสียหายน้อยกว่ามาก

อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหาการใช้พลังงานและพฤติกรรมการสร้างมลพิษของเทคโนโลยีขนาดใหญ่จริงๆ นั้นต้องใช้เวลามากกว่าการทำให้ผู้คนส่งอีเมลน้อยลง ประการแรก กฎระเบียบต้องสนับสนุนเทคโนโลยีดิจิทัลที่ขับเคลื่อนโดยแหล่งพลังงานหมุนเวียนเป็นมาตรฐาน เทคโนโลยีดิจิทัลทำให้เกิดการปล่อยคาร์บอนมากพอๆ กับอุตสาหกรรมการบิน และสิ่งนี้ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การย้ายไปสู่พลังงานหมุนเวียนจะทำให้เทคโนโลยีดิจิทัลสร้างความเสียหายน้อยลงด้วยการนำเชื้อเพลิงฟอสซิลออกจากห่วงโซ่อุปทาน

ประการที่สอง เพื่อให้แน่ใจว่ามีพลังงานหมุนเวียนเพียงพอสำหรับพลังงานที่เหลือในสังคมรวมถึงเทคโนโลยีดิจิทัล  ubett    เราต้องกีดกันหรือลดกิจกรรมที่ปล่อยมลพิษมากซึ่งสร้างความมั่งคั่งมหาศาลให้กับผู้ใช้ ตัวอย่างเช่น การโฆษณาออนไลน์ พลังงานที่จำเป็นในการขับเคลื่อนแคมเปญโฆษณาออนไลน์โดยเฉลี่ยจะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 5.4 ตัน ซึ่งเป็นหนึ่งในสามของที่ผู้บริโภคชาวอเมริกันโดยเฉลี่ยผลิตในหนึ่งปี และยังส่งเสริมให้มีการบริโภคสินค้ามากขึ้นด้วย

สุดท้ายและที่สำคัญที่สุด การกระจายนโยบายความมั่งคั่งและความเสื่อมโทรมโดยมุ่งเป้าไปที่บริษัทเทคโนโลยีสามารถลดการบริโภคที่ไม่จำเป็นลงได้ ประชากรโลกเพียง 63% เท่านั้นที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ต โดยการปล่อยมลพิษทางดิจิทัลส่วนใหญ่เกิดขึ้นในประเทศที่พัฒนาแล้วทางเศรษฐกิจ ความมั่งคั่งที่เกิดจากอุตสาหกรรมเทคโนโลยีมีความไม่เท่าเทียมกันมากขึ้น บุคคลจำนวนค่อนข้างน้อยทำเงินได้มากมายในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ซึ่งมักจะเผาผลาญเชื้อเพลิงฟอสซิลเพื่อขับเคลื่อนศูนย์ข้อมูลที่ทำให้อุปกรณ์ โซเชียลมีเดีย

และแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งของเราออนไลน์อยู่ นอกจากนี้ยังมีหลักฐานที่แสดงว่าคนร่ำรวยมีส่วนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากขึ้น สุดยอดเรือยอทช์ เครื่องบินส่วนตัว และบ้านขนาดใหญ่เป็นรางวัลสำหรับเจ้าของเทคโนโลยีดิจิทัลที่ประสบความสำเร็จ

การเปลี่ยนจุดเน้นของเราจากการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศเป็นมาตรการทางเศรษฐกิจที่เน้นที่คุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดี ไม่เพียงแต่จะลดคาร์บอนเท่านั้น แต่จะยกระดับมาตรฐานการครองชีพสำหรับทุกคน แน่นอนว่าสิ่งนี้ควรขยายไปไกลกว่าโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและต่อทุกภาคส่วนของสังคม บางคนอาจบ่นว่าโซลูชันทั้งสามนี้จะเพิ่มต้นทุน ยับยั้งนวัตกรรม หรือหมายความว่าบริษัทเทคโนโลยีบางแห่งล้มเหลว แต่ถ้านวัตกรรมมาในรูปแบบของบริษัทเทคโนโลยีดิจิทัลที่เผาผลาญคาร์บอนได้ถึง 300 ล้านตันต่อปี

ราก็สามารถทำได้โดยปราศจากมัน หากเราไม่พิจารณาถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เราจะเห็นวิดีโอแมวน้อยลงทางออนไลน์ และวิดีโอเกี่ยวกับไฟป่า น้ำท่วม และเหตุการณ์สภาพอากาศที่เลวร้ายมากขึ้นเมื่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศเร่งขึ้น

Posted on

ที่ชาร์จแบบไร้สายดีหรือไม่

             ปัจจุบันโลกเรามีวิวัฒนาการกันอย่างกว้างขวางดังนั้นจะมีผลิตภัณฑ์หรือนวัตกรรมใหม่ๆถูกผลิตออกมาเพื่อรองรับการใช้งานของประชาชนและคนที่ชื่นชอบเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ๆก็มักจะสนใจผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่ถูกผลิตออกมาอย่างเช่นในขณะนี้ในวงการโทรศัพท์มือถือของเรานั้นได้มีการผลิตที่ชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สายออกมาจำหน่าย 

         แน่นอนว่าหากจะใช้ที่ชาร์จแบตแบบไร้สายเราก็ต้องดูโทรศัพท์มือถือของเราด้วยว่าเป็นรุ่นที่รองรับกับที่ชาร์จแบตแบบไร้สายหรือไม่  แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญที่สุดก่อนที่เราจะซื้อที่ชาร์จแบตแบบไร้สายนั้นเราควรจะพิจารณาส่วนอื่นๆตามมาเพิ่มเติมนอกจากโทรศัพท์มือถือที่รองรับแล้วยังมีข้อมูลอะไรที่เราควรจะดูก่อนที่จะซื้อหรือไม่วันนี้เราจะมาแนะนำข้อมูลต่างๆเหล่านั้นให้ดูกัน  

          อย่างแรกเลยก็คือหากคุณต้องการใช้ที่ชาร์จแบตไร้สายคุณต้องดูว่ามือถือของคุณนั้นมีคุณสมบัติที่รองรับ Wireless ชาร์จหรือไม่เพราะถ้าหากว่าไม่มีคุณสมบัติตัวนี้ต่อให้คุณซื้อที่ชาร์จแบตมามันก็ไม่สามารถใช้งานได้ดังนั้นสิ่งที่คุณจะต้องเช็คก็คือโทรศัพท์มือถือของคนนั้นเป็นรุ่นไหนสำหรับมือถือที่รองรับรุ่นต่ำสุดนั้นก็คือ iPhone 8 ดังนั้นหากใครที่ใช้โทรศัพท์มือถือต่ำกว่า iPhone 8 แล้วก็คุณสมบัติของมือถือของคนนั้นยังไม่สามารถที่จะใช้ที่ชาร์จแบตแบบไร้สายได้นั่นเอง 

         อย่างที่ 2 ถึงแม้ว่าโทรศัพท์มือถือของคุณจะรองรับไวเลสชาร์จก็ตามแต่คุณรู้หรือไม่ว่าโทรศัพท์มือถือของคนนั้นใช้กำลังไฟอยู่ที่เท่าไหร่ เพราะการที่จะใช้ที่ชาร์จแบตแบบไร้สาย

0.นั้นโทรศัพท์มือถือของคุณควรจะต้องมีกำลังไฟมากกว่า 10 วัตต์ขึ้นไปในขณะที่ถ้าโทรศัพท์มือถือของใครที่สามารถใช้กำลังไฟได้ไม่ถึง 10 วัตต์แล้วเราก็แนะนำว่าคุณยังไม่ควรซื้อที่ชาร์จแบตไร้สายมาใช้จะเป็นการดีที่สุด  

           สิ่งสำคัญที่คุณจะสามารถใช้ที่ชาร์จแบตแบบไร้สายได้นั้นควรจะต้องใช้โทรศัพท์มือถือที่ไม่มีอะไรขั้นการเช่นโทรศัพท์มือถือที่มีการใส่เคสหากที่ของคุณที่ใช้งานนั้นมีความหนามากเกินไปมันก็จะไม่สามารถชาร์จแบตแบบไร้สายได้ดังนั้นหากคุณจะใช้เคสคุณก็ต้องเลือกใช้เคสบางๆหรืออาจจะต้องหาซื้อเคสที่รองรับกับการใช้งานแบบที่ชาร์จแบตแบบไร้สายโดยเฉพาะซึ่งอาจจะต้องติดต่อศูนย์บริการของทาง Apple ดูอีกทีนึง 

           และนี่คือข้อคิดดีๆที่ฝากมาให้คุณคิดและพิจารณาก่อนที่คุณจะตัดสินใจซื้อที่ชาร์จแบตแบบไร้สายเพราะถึงแม้ว่ามันจะทันสมัยและมีความสวยงามดูไฮเทคโนโลยีแต่บางทีการใช้งานก็ไม่ค่อยจะสะดวกสบายมากนักเพราะฉะนั้นถ้าหากคุณใช้โทรศัพท์มือถือของคุณแล้วและเช็คเงื่อนไขต่างๆแล้วยังไม่ตรงกับข้อมูลที่กล่าวไปเบื้องต้นก็สามารถใช้ที่ชาร์จแบตแบบธรรมดาได้ซึ่งก็ให้ประสิทธิภาพการชาร์จได้ดีเช่นเดียวกัน 

 

 

สนับสนุนโดย     สล็อตjoker โอน ผ่าน วอ เลท ไม่มีขั้นต่ำ

Posted on

USBแต่ละแบบมีความแตกต่างกันอย่างไร

usbนั้นเป็นอุปกรณ์ที่เราทุกคนได้มีการใช้กันอยู่แล้ว แต่ได้มีการใช้แบบหลากหลายประเภท ซึ่งในปัจจุบันนั้นได้มีusb อยู่อย่างหลายแบบ และประเภทให้เรานั้นได้ใช้ ซึ่งในปัจจุบันนั้นเราได้มีการที่ใช้กันอยู่จะเป็น usb1.0 usb2.0 usb3.0 usb lighting เป็นต้น ซึ่งใน usbที่เรานั้นได้มีการที่ใช้ในปัจจุบันนั้น

เราจะใช้เป็นส่วนมากนั้นก็คือ การที่เรานั้นได้มีการใช้กับ เมาส์ คีย์บอร์ด หูฟัง ที่ชาร์จโทรศัพท์ เป็นต้น ซึ่งในอุปกรณ์คอมต่างๆในปัจจุบันนั้นจะเป็นusb3.0 กันหมดแล้วเป็นส่วนใหญ่ และในปัจจุบันนั้นได้มีการที่ใช้usbในรูปแบบต่างๆดังนี้

  1. usb1.0

เป็นusbที่เป็นรุ่นแรก ที่ได้มีการใช้งานในตั้งแต่ ค.ศ.1996 ซึ่งเป็นusbที่ได้มีซิพและพอร์ตข้างในที่เป็นสีขาว ซึ่งได้มีการที่สามารถทำการรับส่งข้อมูลได้เพีบงแค่ 1.5-12 Mbit และสามารถที่จะทำการจ่ายไฟได้เพียงแค่2.5w

  1. usb2.0

เป็นusbที่มีการใช้งานที่เป็นรุ่นที่2 ต่อจากการที่ใช้usbรุ่นแรกนั้นได้5ปี ซึ่งusbนี้ได้มีการที่เริ่มใช้งานกันในปีค.ศ.2001 ซึ่งเป็นusbที่มีความคล้ายกับusb1.0 แต่มีพอร์ตข้างในที่มีสีดำ ซึ่งสามารถที่จะทำการรับส่งข้อมูลนั้นเร็วขึ้นจากเดิมเป็นอย่างมาก ซึ่งสามารถที่จะทำการส่งข้อมูลได้ 1.5-480 Mbps ซึ่งสามารถที่จะทำการจ่ายไฟได้ที่2.5w

  1. usb3.0

เป็นusbที่มีการใช้งานเป็นรุ่นที่3 ซึ่งเป็นusbที่มีการเริ่มต้นใช้งานหลังจากรุ่นที่2นั้น10ปี ซึ่งเป็นพอร์ตที่มีลักษณะคล้ายเดิมแต่มีพอร์ตที่เป็นสีน้ำเงิน และได้มีการที่สามารถที่จะทำการรับส่งข้อมูลนั้นได้เร็วขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งสามารถที่จะมีการทำการรับส่งข้อมูลได้5Gbps และทำการจ่ายไฟได้ 4.5w และสามารถที่จะทำการแปลงหัวได้อย่างหลากหลายเป็นอย่างมาก 

  1. usb4

เป็นusbที่เป็นusbรุ่นล่าสุดที่มีการเปิดตัวให้สามารถที่จะใช้งานกันได้ในปี2019 ซึ่งเป็นusbที่มีความเร็วเป็นอย่างมาก ซึ่งสามารถที่จะทำการรับส่งข้อมูลนั้นมีความเร็ว 40 Gigabit ซึ่งเป็นพอร์ตที่เป็น usb Type C 2ด้าน

  1. usb Type C

 เป็นพอร์ตที่มีความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน และเป็นพอร์ตที่มีความใหญ่กว่าพอร์ตที่มีความใหญ่กว่า พอร์ตLightning ซึ่งสามารถที่จะทำการเชื่อมต่อได้อย่างมีความหลากหลายเป็นอย่างมาก โดยที่สามารถที่จะมีการทำการพบได้บ่อยๆในอุปกรณ์ส่วนใหญ่ในปัจจุบัน

 

สนับสนุนโดย    u12

Posted on

ทางเลือกการทำงานในยุคปัจจุบัน 

Work from home คือรูปแบบอีก 1 รูปแบบที่ผู้คนมีการใช้ในส่วนของการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในองค์กรขนาดเล็กขนาดใหญ่ในยุคปัจจุบันถ้าหากมีการใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงานได้หรือแม้แต่จะเป็นการส่งงานผ่านอินเทอร์เน็ตได้ผู้คนก็จะเลือกระบบนี้เข้ามาทำงาน เพราะในยุคปัจจุบันผู้คนต่างๆสามารถเข้าถึงคอมพิวเตอร์ได้และอินเตอร์เน็ตก็มีความรวดเร็วที่มากขึ้น

ทำให้มีการกำหนดโครงสร้างการทำงานได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ความสนใจในการพัฒนารูปแบบในการทำงานหรือ Messenger เป็นการเปลี่ยนแปลงลักษณะการทำงานที่ดีมากยิ่งขึ้น การแข่งขันการที่สูงมากยิ่งขึ้นนี้ทำให้การติดต่อสื่อสารการภายในองค์กรหรือแม้แต่จะเป็นการส่งงานต่างๆมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ผู้คนส่วนใหญ่สามารถทำงานหลายๆงานได้หรือแม้แต่จะเป็นพัฒนาการทำงานทางด้านต่างๆที่ดีมากยิ่งขึ้น คอมพิวเตอร์สามารถเข้าถึงได้ง่ายเพราะมีราคาที่ถูกและผู้คนต่างๆมีการใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ซอฟต์แวร์ต่างๆรวมทั้งทรัพยากรต่างๆก็เลือกหน่วยต่อการทำงานในยุคปัจจุบัน บุคคลต่างๆเริ่มมีการพัฒนาลักษณะการทำงานให้ดีขึ้น

ยกตัวอย่างเช่นบริษัทขนาดใหญ่เช่นบริษัททวิตเตอร์ ที่มีการพัฒนารูปแบบการทำงานหรือแม้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงลักษณะในการทำงานภายในองค์กร ให้พนักงานภายในองค์กรสามารถทำงานที่บ้านได้ไม่จำเป็นต้องมีการเข้าบริษัท รูปแบบนี้ถูกพัฒนาโดยบริษัทอื่นๆอีกมากมายที่ผู้คนส่วนใหญ่มีการใช้ซอฟต์แวร์ต่างๆเพื่อเข้ามาช่วยในการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

หรือพัฒนางานทางด้านหน้าต่างให้มีรูปแบบที่ดีมากยิ่งขึ้น วันนี้จะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทุกคนตัวใหญ่ให้ความสนใจในการเปลี่ยนแปลงลักษณะในการทำงานหรือพัฒนางานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การแข่งขันการดูการเปลี่ยนแปลงลักษณะในการทำงานหรือยังคงมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องผู้คนส่วนใหญ่มีลักษณะในการทำงานทางด้านต่างๆเพิ่มมากยิ่งขึ้นในการใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงาน จะช่วยให้งานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นหรือมีความแม่นยำมากขึ้น

คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่สามารถเชื่อถือได้มีระบบการทำงานอย่างซับซ้อน เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์อย่างไรก็ตามคอมพิวเตอร์ทำงานซ้ำผ่านซอฟต์แวร์ต่างๆที่ถูกเขียนมาโดยซับซ้อน จึงทำให้มีการประมวลผลที่มีความแม่นยำได้อย่างไรก็ตามการส่งต่อข้อมูลต่างๆก็มีการพึ่งพาในสังคมอินเตอร์เน็ต Work from home จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ผู้คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจ

ในการพัฒนาลักษณะในการทำงานเพราะมีการลดต้นทุนทางด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่าสถานที่ในการทำงานหรือแม้แต่จะเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆที่ถูกปรับให้ลดลงจากการทำงานที่บ้าน เวลาก็มีเพิ่มให้ขึ้นรถจากการเดินทางต่างคนต่างๆในองค์กรก็จะใช้เวลาต่างๆเหล่านี้พัฒนาการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเช่นเดียวกัน 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย     ชุดตรวจ hiv

Posted on

การพัฒนาคอมพิวเตอร์ 

คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่ถูกพัฒนามาจากในส่วนของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆที่ถูกเปลี่ยนแปลงไปตามยุคตามสมัย แรกเริ่มเดิมทีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เป็นเพียงแต่อุปกรณ์ที่ทำมาจากวัสดุธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นทั้งไม้ทั้งหินต่างๆที่ใช้ในการคำนวณหรือการจดบันทึกต่างๆแต่เพียงเท่านั้น ในส่วนของลูกคิดที่หลายๆคนในอดีตมีการใช้ในการคิดคำนวณเรื่องราวต่างๆไม่ว่าจะเป็นในส่วนของสินค้าที่นำมาลงเรือ

หรือแม้แต่จะเป็นการคำนวณตัวเลขที่เยอะกว่ามนุษย์จะคิดได้อย่างรวดเร็ว นี่จึงเป็นเป้าหมายหลักของคอมพิวเตอร์เพื่อเข้ามาในส่วนของการพัฒนาและปรับใช้คุณภาพชีวิตที่ดีมากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการคิดคำนวณในการจดจำเรื่องราวต่างๆ และในแต่ละยุคก็มีการพัฒนามีเสมอด้วยในยุคปัจจุบันคอมพิวเตอร์มีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คน

ในแต่ละด้านมากยิ่งขึ้นเพราะคอมพิวเตอร์สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต นี่เป็นพื้นฐานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากมายที่เขามีส่วนร่วมในการใช้ชีวิตของผู้คน นี่เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากที่ผู้คนจะใช้ในส่วนของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อุปกรณ์คอมพิวเตอร์เข้ามาพัฒนาและปรับใช้คุณภาพชีวิตที่ดีมาก

ในปัจจุบันคอมพิวเตอร์ได้เข้ามามีส่วนร่วมทุกข์ย่อขยายเข้ามาอยู่ในอุปกรณ์ใดและอุปกรณ์ ยกตัวอย่างเช่นในความพยายามของอุตสาหกรรมรถยนต์ในปัจจุบันที่มีความพยายามจะควบคุมรถยนต์โดยใช้คอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่จะเป็นติดตั้งระบบต่างๆให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นภายในรถยนต์ นี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมแต่ละองค์กรหรือแต่ละบริษัทมีความพยายามอย่างยิ่งที่จะพัฒนารถยนต์ของตัวเองให้มีการนำเข้าของคอมพิวเตอร์เข้ามาควบคุม 

ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเตือนระบบต่างๆภายในรถยนต์ว่ามีความเสียหายด้านไหนบ้างไม่ว่าจะเป็นในส่วนของน้ำมันเชื้อเพลิง ความสมดุลของล้อ อากาศ สิ่งเหล่านี้สามารถควบคุมได้โดยใช้คอมพิวเตอร์ภายในรถยนต์หรือผ่าน Application ที่เชื่อมต่อภายในรถยนต์ หรือแม้แต่จะเป็นในบริษัทของเทสล่าที่มีความพยายามจะพัฒนาในส่วนของรถยนต์ให้สามารถขับเคลื่อนด้วยตัวเอง โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีมนุษย์เข้ามาขับเคลื่อน เป็นสาเหตุที่บ่งบอกได้ว่าธุรกิจต่างๆมีความพยายามที่จะพัฒนาประสิทธิภาพการใช้ชีวิตหรือใช้งานสิ่งต่างๆดีมาก สร้างการเติบโตและพัฒนาในธุรกิจต่างๆโดยใช้คอมพิวเตอร์ 

ในปัจจุบันคอมพิวเตอร์ยังถูกพัฒนาไปอีกหลายๆธุรกิจอุตสาหกรรมยังมีการพัฒนาไม่มีที่สิ้นสุด มีการวางระบบซอฟต์แวร์ต่างๆไม่ว่าจะเป็นการวางเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่เพื่อรับส่งข้อมูล และอีกมากมายที่คอมพิวเตอร์ต้องมีส่วนร่วมแม้กระทั่งในบ้านของเราที่เราอยู่อาศัยในปัจจุบัน อุปกรณ์ไฟฟ้าในรอบตัวเราก็สามารถควบคุมผ่านคอมพิวเตอร์ด้วย Application ได้แล้ว

นี่จะเป็นสาเหตุว่าทำไมโลกของเรามีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆอยู่เสมอเพื่อรองรับการใช้งานกับการเปลี่ยนแปลงของโลกของเรา จึงทำให้คุณภาพชีวิตมีการพัฒนาเสมอมีการเรียนรู้และปรับตัวรูปแบบในการใช้ชีวิตต่างๆให้มีประสิทธิภาพในการดำเนินชีวิตในทุกๆวันมากยิ่งขึ้น

 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย   เว็บพนัน pantip

Posted on

คอมพิวเตอร์เบื้องต้นที่เราควรรู้

สำหรับการแบ็คอัพและเรียกคืนข้อมูลเบื้องต้นมีดังนี้

ต้องบอกก่อนนะว่าหาก BIOS ทำการค้นหาในเรื่องของระบบปฏิบัติการที่จะเป็นกระบวนการของวินโดวส์มีการได้ค้นพบเจอแล้วจะทำให้ไฟล์เหล่านั้นได้ถูกการดาวน์โหลดมาเพื่อนำมาเก็บไว้ที่หน่วความจำที่เราเรียกว่าแรม(RAM) ในทางปกติแล้วเราจะทำการดาวน์โหลดไฟล์จากระบบที่เป็นฮาร์ดดิสก์ต่อจากนั้นไฟล์ระบบก็จะทำการทำงานของมันโดยการดาวน์โหลดโครงสร้างหรือเคอร์เนล(Kernel)เป็นการกระทำของระบบปฎิบัติการวินโดวส์ซึ่งจะนำไปสู่กระบวนการทำงานของรูปแบบของคอมพิวเตอร์นั่นเอง

สำหรับขั้นตอนในการทำในระบบของลำดับสุดท้ายระบบปฏิบัติการวินโดวส์จะกระทำการดาวน์โหลดสำหรับข้อมูลที่เกี่ยวกับการทำคอนฟิกต่างๆไม่ว่าจะเป็นระบบในรูปแบบของเวอร์ชั่นวินโดวส์ รีจิสทรี โพร์ไฟล์ ก็ได้เช่นกันดังนั้นหากมีการทำเสร็จจากระบบเหล่านี้ก็ถือได้ว่าเสร็จสมบูรณ์และเราก็สามารถใช้งานเกี่ยวกับการเล่นวินโดวส์ได้เลย

ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ มีดังนี้

สำหรับส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์เหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นสิ่งจำเป็นเรียกว่ำเป็นอย่างมากที่เราจะต้องทำความเข้าใจเพื่อให้เราสามารถหาวิธีแก้ไขหีรือป้องกันและบำรุงรักษา อาจจะมีการซ่อมแซมคอมพิวเตอร์ได้อย่างตรงจุดโดยแบ่งเป็น 2 อย่าง คือ ฮาร์ดแวร์ และ ซอฟต์แวร์

ขยายความคำว่า ฮาร์ดแวร์

ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ก็คืออุปกรณ์ที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ที่เราได้นำมาติดตั้งไว้ในคอมพิวเตอร์นั่นเอง

โดยจะมีหน้าที่หลักทำงานอยู่หลากหลายอย่างซึ่งมันจะถูกควบคุมการทำงานโดยซอฟต์แวร์ และมันจะมีส่วนประกอบทั้งหมดได้แก่

ซีพียู (CPU : Central Processing Unit) เราอาจเปรียบได้ว่ามันคือศูนย์รวมกลไกลของคอมพิวเตอร์หรืออาจจะมองได้ว่าเป็นสมองของมันเลยเพราะการทำงานของมันสามารถสั่งงานและครอบคลุมระบบของมันทั้งหมดและยังแบ่งจ่ายการทำงานอย่างเป็นระบบให้ถูกต้องอีกด้วย

ในส่วนของซีพียูนี้ จะมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทำงานอยู่ภายในของระบบเราสามารถเรียกสิ่งเหล่านี้ได้ว่าทรานซิสเตอร์ ดังนั้นเจ้าตัวทรานซิสเตอร์นี้จะมีหลายตัวด้วยกันเพราะการแยกการทำงานนั้นมันจะสามารถจำและบันทึกคำสั่งมากมายเพื่อเป็นการนำไปใช้ในการประมวนผลออกมาและเป็นการทำงานตามจังหวะสัญญาณนาฬิกา (Clock)นั่นเอง

สำหรับการประมวนผลในหนึ่งครั้งการทำงานจะเป้นคลื่นความถี่ต่อวินาทีเลยซึ่งเราจะเรียกหน่วยความจำของซีพียูเหล่านี้ว่าเฮิรตซ์ (Hz)หน่วยความจำแคช (Cache Memory) สำหรับเพื่อเป็นคลังเก็บข้อมูลชั่วคราวที่มีขนาดย่อย

โดยมีการเก็บคำสั่งเหล่านี้และข้อมูลเกี่ยวข้องที่เราใช้งานบ่อยๆแต่ทั้งหมดนี้จะมีความจำที่มีไซต์เล็กกว่าหน่วยความจำของแรมและฮาร์ดดิสก์ อย่างที่ทราบกันดีว่าหน่วยความจำแคชจะเป็นการทำงานอยู่ระหว่างซีพียูและหน่วยความจำของแรม เพื่อเป็นการช่วยให้ในขั้นตอนของการประมวลผลการทำงานของซีพียูทำงานได้เร็วขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องเสียเวลาค้นหาข้อมูลจากหน่วยความจำแรม และฮาร์ดดิสก์