คอมพิวเตอร์และข่าวสารการทำเว็บไซต์ต่างๆที่น่าสนใจ

เมื่อ2ปีก่อนนี้เอง นครชิคาโก ได้มีของใหม่ ก่อตั้งขึ้นกลางเมืองอันใหญ่โตนี้ นั่นก้คือ “พิพทธภัณฑ์นักเขียนอเมริกัน” ที่ได้ก่อตั้งและเปิดทำอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ค.ศ.2017 โดยที่มีคนสำคัญของเมืองนี้หลายคนเลยที่มาร่สมงาน คนหนึ่งคนนั้นก้คือนายกเทศมนตรีชิคาโก นายราห์ม เอ็มมานูเอ็ล

สหรัฐอเมริกา มีพิพิธภัณฑ์ประเภทต่างๆ แยกย้ายกันอยู่ในเมืองสำคัญต่างๆ ของประเทศหลายแห่ง แต่ไม่ได้มี พิพิธภัณฑ์นักเขียน มาก่อนเลย ดังนั้น พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จึงเป็นที่แห่งแรกของประเทศที่เกี่ยวกับนักเขียน ที่มาของการตั้งพิพิธภัณฑ์นักเขียนในสหรัฐอเมริกา มาจาการที่เมื่อ10 ป่อนนักธุรกิจชาวอเมริกันเชื้อสายไอริชคนหนึ่งในนครหลวงอเมริกา คือที่กรุงวอชิงตัน ชื่อ โอเฮแกน ได้ไปเยี่ยมถิ่นบรรพบุรุษที่เมืองดูบลินประเทศไอร์แลนด์ ได้มีโอกาสได้ไปดูพิพธภัณฑ์นักเขียนของไอร์แลนด์และเกิดชอบใจมาก อยากให้มีพิพิธภัณฑ์นัเขียนขึ้นบ้างที่สหรัฐอเมริกา

จึงเอาความคิดกลับมาทำให้เป็นความจริง โดยดำเนินการชักชวนองค์กรธุรกิจเอกชนให้มาร่วมลงขันบริจาคเงินสร้าง พิพิธภัณฑ์นักเขียนอเมริกันขึ้น และเขาก็ประสบความสำเร็จ เพราะหาเงินลงทุนมาได้ถึง10,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ จึงได้จ้างบริษัท Amaze Design of Boston จัดระดมนักเขียน ผู้จัดพิมพ์ นักวิชาการ และครู กับคนขายหนังสือ จากหลายแห่งหลลายที่ มาช่วยกันคิด ในที่สุดมีมติเลือก นครชิคาโก เป็นสถานที่ที่จัดพิพิธภัณฑ์ นักเขียนอเมริกาขึ้น โดยมีเหตุผลให้ว่า

ชิคาโก เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวมากแห่งหนึ่งของสหรัฐอเมริกา และที่สำคัญก็คือ มีชื่อว่าเป็นเมืองที่มีความผูกพันกับนักเขียนและวรรณกรรมมากแห่งหนึ่งด้วย

พิพิธภัณฑ์นักเขียนอเมริกันแห่งนี้ ตั้งขึ้นบริเวณกลางนครชิคาโก จริงๆคือ ตั้งอยู่ด้านเหนือบนถนนมิชิแกน เลขที่ 180 ตอนแรกเรานึกว่าเราจะต้องเสียเวลาไปหาอยู่นาน เดินทางไปโดยรถไฟฟ้า ฟังดูโก้หรู จริงๆก็คือรถขนส่งมวลชลราง ของนครชิคาโก นั้นมักจะเป็นรถลอยฟ้า มากกว่ารถใต้ดิน เมื่อลงจากรถแล้วเดินออกมาทางทะเลสาบถึง

ถนนสายสุดท้ายที่มีอาคาร และขนานกับสวนสาธารณะที่มีทะเลสาปอยู่ถัดไป ถนนี้ก็คือถนนมิชิกนนั่นเอง มีโรงแรมและศูนย์วัฒนธรรมตั้งอยู่

เมื่อวันที่ 15 เมษายนประมาณ4ทุ่มของเมืองไทยได้มีการเปิดตัว iPhone SE รุ่นใหม่ล่าสุดของปี 2020โดยเป็นของทางค่ายของ Appleซึ่งตัวนี้ต้องบอกว่าหน้าตาออกมาไม่ได้เหมือนเดิมแล้วเรื่องลักษณะของมันส่วนใหญ่จะเป็นเล็กๆสามารถตั้งได้ใช่ป่ะ

แต่รุ่นนี้มีหน้าตาเหมือนกับ iPhone 8 เลยค่ะแต่ยังคงไว้ซึ่งหน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว เรียกได้ว่าใช้ A 13 ไบโอนิค ซึ่งมันเป็นตัวเดียวกันกับที่ใช้ ใน iPhone 11 เพราะฉะนั้น ความแรงนั้นต้องมาแน่ๆแหละ แต่ว่าตัวกล้องทางด้านหลังแล้วหน้าตาเหมือนกับIPhone 8 เลยกล้องจะต้องเป็นแบบเลนส์เดี่ยว ต้องบอกว่างานนี้ถึงแม้ว่ากล้องเป็นแบบเลนส์เดี่ยวแต่เค้าก็มีความมั่นใจว่าทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของตัวกล้องเองนั้นจะทำให้ทุกคนไม่ผิดหวังอย่างแน่นอนเปิดกล้อง 12 ล้าน Pixel f 1.8

สำหรับตัวนี้ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพ หรือความสว่างความคมความชัดระยะ ชัดลึกทุกอย่างได้ครบหมดเลยหรือว่า Highlight Detail ก็สามารถทำได้หมดเช่นกัน กล้องหน้าเนี่ยเรียกสามารถถ่าย Quick Test ได้อีกด้วยนะคะ ซึ่งโดยรวมแล้วความที่หลายๆคนได้เอามาคอมเม้น ซึ่งถ้าหากใครได้นอนดึกสำหรับเมื่อวานนี้ก็อาจจะ อ่านข่าวไปประมาณ 4-5 ทุ่มแล้วที่ได้มีการโพสต์ ไปแล้วเนาะแต่ว่าก็มีคนมาพูดเหมือนกันเกี่ยวกับเรื่องความผิดหวังว่าทำไม

รุ่นนี้ถึงไม่ได้เป็นแบบ 5g ถึงแม้ว่าไม่ได้เป็นแบบ 5g ก็สามารถใส่ได้ 2 ซิม ซึ่งอีกซิมนึงก็คือตัว E ซิมซึ่งเอาไว้รองรับ สำหรับการใช้งานของ E Sim สำหรับ WiFi ก็ใช้ได้ถึง WiFi 6 LTE ลำดับ gigabit fiwi 6 ก็เหมือนเอา 5g มาเสียบกับเราเตอร์ที่รองรับ 5g ได้อะไรประมาณนี้ แต่สำหรับรุ่นนี้ก็ต้องบอกว่า iPhone SE มีความตั้งใจว่าจะทำตลาดให้ขายได้ในราคาที่ถูกแล้วก็หรือว่าสเปกดีและตอนนี้ก็เริ่มมีการใช้งานทั่วๆไปแล้วคือสำหรับการใช้งานเกี่ยวกับพวกการตัดต่อวีดีโอต่างๆ

และสามารถเล่นเกมที่มีกราฟฟิกหนักๆอะไรแบบนี้ถือได้ว่าเริ่มทำได้ดีแล้วถ้าเกิดเป็นการเทียบกับ SEที่เป็นตัวเก่าการเล่นเกมหรืออะไรแบบนี้โดยมีการพูดถึงว่ามันน่าจะดีกว่าถึง 4 เท่ากันเลยทีเดียว

ซึ่งตัวเก่าเห็นไหมว่ามันจะเป็น a 9 ชิบแต่สำหรับตัวนี้จะกลายเป็น a13 ไบโอนิคและรองรับการใช้งานของ New engineคอย ML หรือพวกที่มันเป็นแบบ Machine Learning ทั้งหลายที่เป็น Application โดยส่วนใหญ่นี้สำหรับแอปถ่ายรูปก็จะมี Machine Learning เหมือนกันดังนั้นการใช้งานมันก็จะดีขึ้นไปและรวมไปถึงในการกันน้ำและการกันฝุ่นโดยเป็น ip67อีกด้วย

Tim cook เป็นผู้บริหารสูงสุดของ Apple Incบริษัทที่ผลิต iPad Apple Watch Macbook และแน่นอน IPhone ชายที่ชื่อสตีฟจอมที่เป็นผู้ก่อตั้งApple ที่ล่วงลับไปแล้ว ไว้วางใจให้เป็นผู้สานฝันต่อให้สำเร็จ 8 ปีผ่านไปมูลค่าของบริษัท Apple เน็ตเพิ่มจาก 11 ล้านล้านบาท เป็น 34 ล้านล้านบาทขึ้นแท่นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก

ส่วนแบ่งกำไรของธุรกิจที่เป็นสมาร์ทโฟนทั้งหมดเป็นของ Apple มากที่สุดถึง 80% โดยเค้าคือผู้ผลักดันให้บริษัทแห่งนี้มีการดำเนินธุรกิจโดยใช้การผลักดันพลังงานที่เป็นการหมุนเวียนแบบ 100%

แม้ว่าความยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นกับ AppleมาจากรากฐานSteve Jobs ด้านการวางเอาไว้แต่สำหรับความสำเร็จในวันนี้ก็คงไม่สามารถที่จะเกิดขึ้นได้หากไม่มีชายคนนี้เป็นบุคคลที่สานต่อ

มีการสัมภาษณ์Tim cook

-สวัสดีทิมยินดีต้อนรับเข้าสู่ประเทศไทยนะ พวกเราตื่นเต้นและยินดีมากที่คุณได้มาประเทศไทย

cook ตอบว่าสวัสดีคับ ผมยินดีมากที่ได้มากรุงเทพ

-คนไทยคงอยากทราบว่าคุณมาไทยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์อะไรพิเศษหรือไม่

cook ตอบว่าผมตั้งใจมาเพื่อมาพบลูกค้าของ Apple และนักพัฒนาซอฟต์แวร์ และทีมงานของเรา พบปะลูกค้าในร้านค้าของเรา และผมรู้สึกประทับใจมากครับ

-จากประสบการณ์ที่มาไทยในครั้งนี้ คุณเห็นว่าคนไทยนั้นมีลักษณะอะไรเป็นพิเศษ บ้างคะ

cook ตอบว่ารู้สึกว่าคนไทยใจดีมีน้ำใจ และน่าชื่นชมมากครับ ซึ่งเป็นลักษณะที่หาได้ยากบนโลกในทุกวันนี้ และผมไปอยู่ประเทศไทยให้นานกว่านี้นะครับ

-ทุกวันนี้การใช้สมาร์ทโฟน เป็นการควบคุมกิจวัตรประจำวัน ของทุกคนแหละที่ภาคธุรกิจ แต่สำหรับล่าสุด Apple ได้ออกคุณสมบัติ screentime ขึ้นมา จำกัดการใช้สมาร์ทโฟนมาก เกินกว่าความจำเป็น คุณคิดว่าเป็นการสวนทาง กับการส่งเสริมการตลาดของทาง Apple หรือไม่

cook ตอบว่าไม่เลยครับ แอปเปิ้ลมีกฎพื้นฐานง่ายๆ หากคุณมีการจ้องโทรศัพท์อยู่ตลอดเวลา โดยที่คุณนั้นไม่มองตาใครเลย นั่นถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องแล้ว Apple จึงได้คิดค้น featureขึ้นมารับมือกับเครื่องนี้ Application นี้ มีขึ้นเพื่อเตือนให้คุณตระหนักว่า คุณใช้เวลามือถือมากน้อยแค่ไหน เป็นมาตรฐานว่าเรานั้นมีการบริหารเรื่องนี้อย่างไรและดึงให้หลายคนตระหนักว่าใช้โทรศัพท์มือถือมากเกินไป และลดการใช้ลง ซึ่งมันได้ผลมากสำหรับผู้ชายหลายคน รวมถึงตัวผมเองด้วย

-คุณคิดว่าการจำกัดการใช้มือถือ จะเป็นการลดโอกาสของทางธุรกิจ Apple หรือป่าว

cook ตอบว่าสำหรับ Apple ไม่ได้เน้นเรื่องการมุ่งส่งเสริมให้ผู้บริโภคใช้โทรศัพท์มือถือ มากเกินความจำเป็น ตรงกันข้ามเราเน้นให้ผู้บริโภค ลดพฤติกรรมที่ไม่พึงกระทำ ถ้าผู้บริโภคใช้ผลิตภัณฑ์ของแอปเปิ้ลมากจนเกินไป เราก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นประโยชน์ หรืออยากให้เป็นเช่นนั้นนะครับ