หมวดหมู่: ความรู้ด้านไอที

สำหรับคอมพิวเตอร์นั้นในสมัยก่อนเราจะเห็นได้ว่าคอมพิวเตอร์มีราคาค่อนข้างที่จะสูง จะเห็นได้ว่าคนส่วนใหญ่ที่มีเงินหรือค่อนข้างที่จะรวยเท่านั้นที่จะมีคอมพิวเตอร์เป็นของตัวเอง แต่สำหรับในปัจจุบันนี้จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่ก็มีคอมพิวเตอร์ด้วยกันแทบจะทุกบ้าน

ซึ่งจะเห็นได้ว่าตั้งแต่สมัยก่อนจนถึงปัจจุบันคอมพิวเตอร์มีการพัฒนาระบบมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นความสามารถของคอมพิวเตอร์หรือแม้แต่ประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์ก็ตาม และนั้นยังรวมไปถึงการดีไซน์ออกแบบในรูปแบบใหม่ๆที่ทำให้ใครต่อใครหลายๆคนมีความชื่นชอบในรูปแบบของมันมากขึ้นอีกด้วย ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ชนิดไหนก็ตามคนมักจะมีความสนใจเป็นพิเศษยิ่งเฉพาะในรูปแบบของคอมพิวเตอร์ที่เป็นแบบ All in one และแบบ PC ดังนั้นหากมีคำถามเกิดขึ้นว่าทั้ง 2 ระบบนี้แบบไหนดีกว่ากันวันนี้เรามีคำตอบให้แก่ผู้คน

คอมพิวเตอร์แบบ All in one คืออะไรกันนะ

สำหรับคอมพิวเตอร์แบบ All in one นั้น ถือได้ว่าเป็นคอมพิวเตอร์แบบใหม่ที่มีการดัดแปลง ที่เป็นการรวบรวม CPU กับหน้าจอเอามาผสมผสานกันให้ออกมาเป็นรูปแบบ ซึ่งหลายคนมักจะมีความรู้จักกับคอมพิวเตอร์เป็นแบบ PC กันอยู่บ้างแล้ว ซึ่งจะเห็นได้ว่าคอมพิวเตอร์แบบ PC นั้นถือได้ว่าเป็นคอมพิวเตอร์ที่เรามาใช้กันซะส่วนมาก โดยมีระบบของ CPU และหน้าจอแยกการใช้งานกันอย่างเห็นได้ชัด นั่นเท่ากับว่ารุ่น All In One คือการพัฒนามาจากระบบของแบบ PC โดยเป็นการออกแบบการใช้งานให้ง่ายขึ้นไม่เกะกะไม่มีเวลาขนย้ายก็ค่อนข้างที่จะง่ายไม่ยุ่งยากเหมือนแบบของ PC นั่นเองเท่ากับรูปแบบนี้ได้มีการพัฒนาขึ้นให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบันมากขึ้นนั่นเอง

ระบบงานที่มักจะใช้ในคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่เป็นแบบไหน

หากคุณเป็นคนนึงที่ไม่มีความมั่นใจเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ว่าคุณต้องการใช้แบบไหนมากกว่ากันทั้งสองอย่างนี้คุณสามารถคิดได้ง่ายๆว่าโต๊ะทำงานของคุณที่คุณจะนำมาใช้งานนั้นมีความกว้างมากน้อยเพียงใดหรือสถานที่ทำงานของคุณนั้นใหญ่หรือไม่เพราะว่าสิ่งสำคัญเหล่านี้ล้วนแล้วจะตอบโจทย์คุณได้ว่าคุณควรจะใช้คอมพิวเตอร์ในรูปแบบไหน ไม่ว่าจะเป็นรุ่นออลอินวันหรือรุ่นแบบ PC ก็ตามหากมีสถานที่กว้างมากพอก็สามารถใช้ได้ทั้งคู่เพราะการใช้งานก็ถือว่าไม่ได้ยุ่งยากอะไรมากมายแต่หากมีพื้นที่จำนวนจำกัดก็สามารถใช้ระบบแบบอออินวันได้เหมือนกันโดยไม่ต้องใช้เนื้อที่มากเท่าไหร่นะ

แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าหากคุณใช้งานคอมพิวเตอร์และมีความจำมากหรือต้องใช้ความสามารถในการใช้งานของคอมพิวเตอร์มากการใช้แบบ PC ก็มีค่ากับคุณเช่นกันเพราะว่ามันสามารถ สิ่งต่างๆได้ตลอดเวลาหรือเป็นการอัพเดทเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ของคุณได้อย่างดีเพราะในรูปแบบของ all-in-one ไม่สามารถที่จะเพิ่มหรืออัพเกรดใดๆได้มากขึ้นไปจากเดิมเท่าไหร่นัก

วิธีการใช้คอมพิวเตอร์อย่างถูกต้องมีดังนี้ 

ในยุคสมัยนี้จะเห็นได้ว่าคอมพิวเตอร์ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่คอยอำนวยความสะดวกสำหรับคนที่ทำงานและบุคคลอื่นๆทั่วๆไป ดังนั้นขั้นตอนแรกเราควรรู้วิธีการใช้คอมพิวเตอร์ในรูปแบบที่ถูกต้องกันดีกว่านั่นมันคือสิ่งจำเป็นและเป็นพื้นฐานในการใช้คอมพิวเตอร์เบื้องต้น 

สิ่งแรกที่เราควรทำนั่นก็คือการปรับแสงสว่างของหน้าจอคอมเพื่อให้เข้ากับดวงตาของเรา สำหรับการปรับนั้นยังไม่มีข้อกำหนดที่ตายตัวเพราะ สถานที่และสภาวะของแต่ละคนไม่เหมือนกันดังนั้นการปรับขั้นต้นก็คือปรับให้ดวงตาของเราเวลามองจ้องคอมนั้นรู้สึกสบายตามากขึ้น หรืออาจจะทำอีกวิธีหนึ่งโดยการติดฟิล์มที่หน้าจอเพื่อเป็นการลดแสงของหน้าจอได้อีกระดับหนึ่ง โดยการติดราวนี้สามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไปหรือตามร้านที่มีการขายคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์นั่นเอง 

วิธีการนั่งเล่นคอมให้เหมาะสมโดยวิธีเหล่านี้จะสามารถป้องกันให้กับดวงตาของคุณให้มีการเมื่อยล้าน้อยลงหลังการใช้งานคอมพิวเตอร์ที่มากหรืออาจจะทำด้วยการจัดท่านั่งให้เหมาะสมการเล่นคอมมากนั้นอาจส่งผลให้คุณปวดหลังหรือปวดเอวได้เนื่องจากท่านั่งที่ไม่ดีนั่นเอง โดยการนั่งแล้วส่วนมากจะทำการนั่งห่างจากคอมของคุณประมาณ 20 ถึง 30 นิ้ว และระหว่างหน้าจอนั้นให้อยู่ห่างระดับสายตาของคุณประมาณ 20-26 องศา และการวางรูปแบบของหน้าจอของคุณนั้นควรจัดวางให้ดีเพื่อลดการใส่หน้าใส่ตาไปมาเพื่อเป็นการใช้งานในระดับสายตาของคุณมากขึ้นดังนั้นการจัดหน้าต่างของหมวดหมู่ในแต่ละการใช้งานควรทำให้ถูกต้องเพื่อลดอาการเมื่อยล้าขึ้นได้ 

ไม่กวนให้ฝุ่นนั้นเกาะที่หน้าจอของคอมพิวเตอร์ของคุณ และควรพักสายตาทุก 20 นาทีอาจจะมีการกระพริบตาหรือหลับตาค้างไว้สักครู่เพื่อเป็นการทำให้ดวงตาของคุณมีการชุ่มชื้นขึ้นหรืออาจจะซื้อน้ำยาหยดตาเพื่อเป็นการหล่อลื่นให้ดวงตาของคุณนั้นเอง 

จอคอมของคุณนั้นจะต้องมีความชัดเจน ด้วยการใช้จอคอมพิวเตอร์นั้นสามารถปรับหน้าจอให้มีความชัดเจนโดยไม่ต้องเพ่งเล็งในการใช้สายตามากนักหากผู้มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไปควรใส่แว่นในการเล่นคอมพิวเตอร์ทุกครั้งเพื่อช่วยให้สายตาอยู่ในระดับที่ดีขึ้นลดปัญหาสายตาที่อาจจะเกิดขึ้นต่างๆได้เป็นอย่างดี

สำหรับในยุคสมัยนี้ที่การเล่นคอมทั้งวันไม่ว่าจะเป้นการทำงานหรือเล่นเพื่อความบันเทิงก็ตาม เราควรที่จะปฎิบัติตามขั้นตอนให้ถูกวิธีเพื่อเป็นการป้องกันในสายตาของตัวท่านเอง และป้องกันใสนระบบอื่นๆของร่างที่จะไม่ก่อให้อาการเมื่อยล้าและเพื่อเป็นการทำให้คอมพิวเตอร์ของคุณใช้งานได้นานขึ้น

Big Bertha  

เพื่อนๆเคนสงสัยหรือไม่ว่าในเมืองใหญ่ๆอย่างเช่นกรุงเทพมหานครของเรานั้นและในขณะที่เราอยู่บนพื้นดินนั้นใต้ดินก็ยังมีการสร้างทางเดินรถไฟฟ้ากันอย่างไรและหลายคนก็คงคิดว่ามันจะต้องมีการใช้เครื่องไม้เครื่องมือที่จะต้องมีราคาแพงอย่างแน่นอนถูกต้องแล้ว ในการทำงานในใต้ดินและให้มันได้ประสิทธิภาพที่ดีมันจะต้องใช้เครื่องมือที่ถูกกับลักษณะของงานและเราก็จะขอพาเพื่อนๆไปรู้จักเครื่องที่มีชื่อว่า Big Bertha มันเป็นเครื่องจักรที่เอาไว้ใช้ขุดอุโมงค์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

ใครๆต่างก็รู้ว่าในการที่จะขุดอูโมงค์ใต้ดินนั้นมันเป็นเรื่องที่ยากและจะต้องใช้ต้นทุนที่สูงมากแต่ถ้าหากว่ามีเจ้า Big Bertha แล้วมันก็จะเป็นงานที่ง่ายในทันที เจ้า Big Berthaมันมีขนาดความยาว300FEETและมีน้ำหนักมากกว่า7,000ตันมันได้ถูกออกแบบมาในอย่างสุดยอดเป็นอย่างมากและนอกจากนี้มันก็ยังมีจานที่เอาไว้ใช้สำหรับการขุดอุโมงค์ที่มีขนาดหน้ากว้าง57ฟุต

ซึ่งมันสามารถขุดดินได้โดยที่ไม่ส่งผลให้การสั่นสะเทือนไปถึงข้างบนอีกทั้งมันยังสามารถทำความสะอาดตัวมันเองได้และมันก็สามารถที่จะพ่นซีเมนส์ทำเป็นอุโมงค์หลังจากที่มันเคลื่อนตัวผ่านไปได้อีกด้วยเจ้าBig Berthaนับได้ว่าเป็นเครื่องจักรที่ถูกสร้างขึ้นมาใหญ่ที่สุดในเมืองวอชิงตัน ซึ่งมันได้ถูกใช้งานในการขุดอุโมงค์ในเมืองวอชิงตันหลายแห่งจนมาถึงปัจจุบัน

LIEBHERR R9800 

สำหรับในเขตเหมืองก่อสร้างต้องยอมรับนะว่าในเวลานี้รถขุดดินเป็นเครื่องจักรที่ได้ถูกใช้ประโยนช์มากที่สุดในโลกสำหรับในอุตสาหกรรมในการขุดเจาะและการค้นย้ายก็เช่นกันในงานเหล่านี้เรามักจะใช้เครื่องทุ้นแรงพวกรถตักรถขุดเข้ามาช่วยแต่ว่าในบรรดาในรถขุดหรือรถแบคโฮที่เราได้เห็นกันทั่วไปนั้นมันได้ทำงานขุดได้เพียงระดับหนึ่งเท่านั้นแต่คุณจะต้องกลับตะลึง

เมื่อได้พบกับเจ้ารถขุดจากเยรมันหรือ LIEBHERR R9800ต้องขอยอดรับเลยว่าเจ้า LIEBHERR R9800เป็นสุดยอดราชาแห่งรถขุดดินเพราะว่ามันมีตัวตักดินที่มีความจุสูงถึง 42คิวบิกเมตรและนอกจากนี้มันก็ยังมาพร้อมกันล้อตะขาบ ซึ่งทำให้มันสามารถที่จะลุยงานในทุกสภาพขอพื้นที่ที่อยู่บนโลกใบนี้และมันก็มีน้ำหนักมากถึง800ตันใช้เครื่องยนต์ดีเซลและมีความจุน้ำมันอยู่ที่13,000ลิตรและด้วยขนาดที่ใหญ่ของมัน

จึงทำให้มันได้กลายมาเป็นหนึ่งในรถขุดดินที่ใหญ่ที่สุดในโลกมันสามารถที่จะเคลื่อนย้านหินดินทรายโดยที่ใช้เวลาอันสั้นโดนมัยจะใช้ระยะเวลาเพียง1นาทีเท่านั้นในการตักทรายขึ้นรถบบรทุลลงรถบรรทุขนาดกลาง

สำหรับ Antutu ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในแอป Benchmark ซึ่งมันจะเป็นแบบสำหรับที่ใช้กับอุปกรณ์ที่เป็นระบบของ Android และยังเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมโดยคนส่วนมาก และยังเปานการช่วยให้คนที่ชอบใช้สมาร์ตโฟนและรูปแบบที่เป็นแท็บเล็ตโดยท่านนั้นสามารถที่จะเปรียบเทียบการใช้งานหรือประสิทธิภาพกับรุ่นอื่นๆได้แบบง่ายๆนั่นเอง

แต่เมื่อไม่นานมานี้ได้มีเว็บไซต์ของ Android Police ได้มีการประกาศเกี่ยวกับแอป 3 ตัวที่เป็นของAntutu ได้กระทำการถูกปลดออกจาก Google Play Store เป็นที่เรียนร้อยแล้ว สาเหตุก็เพราะว่ามีการตรวจสอบแล้วพบว่าแอปดังกล่าวนี้มีการเกี่ยวโยงกับ Cheetah Mobile ซึ่งแอปเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นตัวเดียวกับเจ้าของแอปดัง Clean Master ที่ได้มีข่าวเกี่ยวกับเรื่องของการโกงโฆษณาที่เป็นข่าวดังและเป็นระยะเวลาที่นานแล้ว จนทาง Google ได้กระทำการถอดออกไปแล้ว และก็ถอดออกไปแล้วอีกหลายตัวด้วยกัน

ดังนั้นทาง AppBrain ที่เป็นการให้บริการต่างๆไม่ว่าจะเป็นด้านของข้อมูล ซึ่งจะเห็นได้ว่า แอปทั้ง 3 ตัวของ Antutu ที่เป็นการโดนถอดออกไปนั้นได้แก่ Antutu 3DBench, Antutu Benchmark และ AItutu Benchmark โดยเราจะเห็นว่าแอป Antutu 3DBench และ Antutu Benchmark เพิ่งที่จะได้รับการอัปเดตล่าสุดไปเมื่อวันที่ 7 เดือนกุมภาพันธ์ 2020 ที่ผ่านมานั่นเอง และแอป AItutu Benchmark ก็เพิ่งจะได้รับการอัปเดตไปเมื่อวันที่ 13 ของเดือนกุมภาพันธ์ 2020 ที่ผ่านมานี้อีกด้วย

ถึงแม้ว่าทางด้านของ Antutu จะเป็นการไม่ได้ทำการเปิดเผยสำหรับการมีส่วนที่เป็นการเกี่ยวข้องกับ Cheetah Mobile ที่เป็นการเกี่ยวข้องโดยตรง แต่ Tianyancha ซึ่งได้เป็นฐานของข้อมูลเกี่ยวกับทางด้านของธุรกิจก็ได้มีการระบุด้วยว่า Fu Sheng ซึ่งดำรงตำแหน่งที่เป็นประธานและเป็นผู้จัดการของบริษัท Beijing Antutu Technology Co. นี้ได้ดำรงตำแหน่งเป็นซีอีโอของ Cheetah Mobile อีกด้วย

ดังนั้นทำให้นั่นอาจจะเป็นต้นเหตุของเหตุผลที่สำคัญที่เป็นการทำให้แอป Antutu ได้ถูกทำการลบออกจาก Google Play Store ไป อีกทั้งผู้ใช้ก็ไม่ควรดาวน์โหลด APK มาติดตั้งในขณะนี้อีกด้วยเช่นกัน

การอัพเดทต่างๆที่เกี่ยวกับแอปในตอนนี้ถือได้ว่าต้องศึกษาข้อมูลก่อนที่จะทำการดาวน์โหลดเพราะเสี่ยงที่จะไม่ได้ใช้งานอย่างที่เป็นแอปทั้ง 3 ตัวนี้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้การใช้งานไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหนก็ตามเราควรที่จะศึกษาก่อน

ไม่ว่าคุณจะชื่นชอบในมือถือรุ่นไหนก็ตามคุณจะต้องทำการโหลดแอปมาใช้อยู่ดี ดังนั้นท่านควรศึกษาก่อนนะว่าแอปอะไรใช้ได้จริงหรือไม่หรือแอปเหล่านั้นต้องดาวน์โหลดอะไรมาใช้งาน

 

สนับสนุนโดย  BK8

ในยุคนี้อะไรเป็นสิ่งที่จำเป็นสุดสำหรับเพื่อการขับเคลื่อนองค์กรของตนเอง คำตอบก็คือข้อมูลสารสนเทศนั่นเองคนไหนที่มีข้อมูลในมือมากยิ่งกว่าก็ทำให้ได้โอกาสตัดสินใจได้มากกว่าด้วยการตัดสินใจที่ถูกจะมีผลให้สนับสนุนหน่วยงานของตนไปในทางที่ถูกด้วยยิ่งมาบวกกับว่าเทคโนโลยีด้วย ยิ่งทำให้เป็นเรื่องจำเป็นมากขึ้นไปอีก วันนี้พวกเราจะชี้แจงว่า ไอที มันเป็นอย่างไร มีความหมายยังไงในปัจจุบัน

ไอที คืออะไร

คำว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ มาจากภาษาอังกฤษว่า information technology เรียกสั้นๆว่า IT ความหมายของมันก็คือการนำเครื่องคอมพิวเตอร์และก็อุปกรณ์ติดต่อสื่อสาร มาประยุกต์ใช้งานด้านเนื้อหาเกี่ยวกับการจัดการองค์กร ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลภายในองค์กร ข้อมูลภายนอกองค์กร รวมทั้งข้อมูลส่วนอื่นมาผสมผสานกัน วิเคราะห์หาคำตอบที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเพื่อการตัดสินใจ

ไอทีด้านการรวบรวมข้อมูล

ไอที ถ้าหากพวกเรานับตามวิธีการอย่างแรกก็คือ เทคโนโลยีด้านการรวบรวมข้อมูล ปัจจุบันนี้สินค้าแต่ละตัวมักจะมีการเก็บรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภค ความพึงพอใจ สิ่งที่จำเป็นของลูกค้าเพื่อนำมาสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ บริการที่ตอบตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริโภคให้เยอะที่สุด การรวบรวมข้อมูลบางทีอาจจะได้จากการสำรวจสิ่งที่ต้องการจากคำค้นหาของ search engine หรือจากแบบสำรวจที่เจาะกลุ่มเป้าหมายโดยตรง ซึ่งแนวทางหลังจากแบบเดิมจะต้องว่าจ้างบริษัทเดินถามเดินตรวจสอบ ก็ไม่ต้องแล้วกระจายไปตามโลกโซเชียลทีเดียวจบ

ไอทีด้านการวิเคราะห์ข้อมูล

ภายหลังจากรวบรวมข้อมูลในจำนวนมากๆที่เรียกว่า big data แล้ว การจะมานั่งวิเคราะห์เองทั้งผองนั้นเป็นเรื่องยากมากพูดง่ายๆว่าถ้าเกิดพวกเราทำแบบสำรวจ 1,000 ชุด เพียงแค่คัดเลือกกลุ่มอายุจุดมุ่งหมายว่า แต่ละกลุ่มเป้าหมายมีกี่ชุด กี่คน บอกเลยว่าปาดเหงื่อแน่ๆ แต่ว่าปัจจุบันนี้เค้าใช้ไอทีด้านการวิเคราะห์ข้อมูลเข้ามาช่วยเหลือ อย่างถ้าเกิดพวกเราตอบแบบสอบถามออนไลน์ เค้าก็จะรวบรวมข้อมูลพร้อมวิเคราะห์ให้เสร็จสรรพตามหลักสถิติ พร้อมนำเสนอเลยพวกเรามีหน้าที่กดวิเคราะห์แล้วก็อ่านข้อมูลนั้นก่อนที่จะตัดสินใจเพียงเท่านั้น

ไอทีด้านการนำเสนอข้อมูล

เมื่อได้ข้อมูลทั้งหมดแล้ว จะมานั่งเขียนบรรยายแบบทีเดียว 10 บรรทัด บอกเลยว่าวิธีอย่างงั้นไม่ค่อยดีเลย ไม่มีใครมาเสียเวล่ำเวลาอ่านอะไรอย่างนั้นแน่ๆ การนำเสนอข้อมูลในช่วงนี้ถูกแปรเปลี่ยนให้อยู่ในรูปของกราฟ แผนผัง หรือ ภาพ infographic จะดียิ่งกว่า เข้าใจง่าย ติดต่อสื่อสารสิ่งที่พวกเรานำเสนอได้ตรงใจกว่า ยิ่งหากเป็นการนำเสนองานต่อลูกค้า ถ้าเกิดพวกเราเอาไอทีด้านการนำเสนอข้อมูลไปใช้ ไม่แน่อาจจะส่งผลให้ลูกค้าเข้าใจรวมทั้งซื้อผลิตภัณฑ์ของพวกเราได้เร็วขึ้น

เห็นว่า ยุคนี้พวกเราใช้ข้อมูลจำนวนมากขึ้น แต่ว่าการทำงานง่ายดายมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากว่าพวกเราใช้ไอทีเข้ามาช่วยพวกเราปฏิบัติงานแทน ยิ่งถ้าเกิดพวกเราใช้ไอทีได้ดีมากแค่ไหน ช่องทางที่พวกเราจะตัดสินใจได้ถูกต้องก็มีเยอะขึ้นเรื่อยๆเท่านั้น

 

สนับสนุนโดย  9luck

รวมโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดที่รองรับ 5G รวมทั้งคาดว่าจะขายในประเทศไทย ในตอนต้นปี 2020

ภายหลังที่ผู้ให้บริการอย่าง AIS ได้ประกาศว่าพร้อมให้บริการ 5G ในประเทศไทยไปก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาก็ทำให้ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยต้องการรู้ว่าในช่วงเวลานี้โทรศัพท์มือถือรุ่นไหนที่ใช้งาน 5G ได้บ้างวันนี้พวกเราได้รวมโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นใหม่ที่คาดว่าจะเปิดตัวรวมทั้งรองรับ 5G ในประเทศไทย มาให้ชมกัน

Huawei Mate 30 Pro

เริ่มกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ประกาศตนเองว่าพร้อมสำหรับ 5G รองรับคลื่นมากถึง 8 เขตความถี่รวมทั้ง 700MHz, 2600MHz, 3500MHz เป็นต้นส่วนสเปกที่เหลือยังคงเช่นเดียวกับ Huawei Mate 30 Pro และก็รวมถึงราคาเครื่องอยู่ที่ 31,900 บาท จัดว่าเพิ่มจากรุ่นธรรมดานิดหน่อยนะครับ

Samsung Galaxy S20 Ultra

เรือธงใหม่ล่าสุดที่พร้อมที่จะจัดส่งมอบวันที่ 6 เดือนมีนาคม คนไหนจองไว้ก่อนลุ้นว่าจะได้อัปเดต Software ให้ใช้งาน 5G เมื่อไหร่ แต่ว่าที่แน่ๆเป็น Galaxy S20 จะรองรับเพียงแค่ 2600MHz รวมทั้ง 3500MHzเพราะฉะนั้นคนไหนจะเผื่ออนาคตอาจจะจำเป็นต้องมองข้าม แต่ว่ารุ่นนี้ลักษณะเด่นคือกล้องถ่ายภาพซูมได้ไกลระดับ 100 เท่า หน้าจอไม่โค้ง และก็แบตเตอรี่ใหญ่อลังการงานสร้างถึง 5000 mAH นับว่าใหญ่อยู่ ส่วนราคา 39,900 บาท สำหรับเครื่องเปล่า ติดโปร ถูกกว่านี้แต่ว่าเรียนรู้ให้ดีนะครับผม

Sony Xperia 1 Mark 2

อีกโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นหนึ่งที่พึ่งจะเปิดตัวไปไม่นานสำหรับ Sony Xperia 1 Mark 2 ที่นอกเหนือจากเรื่องของกล้องถ่ายรูปแล้วโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อ 5G ในเขตความถี่ที่เมืองไทยรองรับเพียงแค่ 700MHz เพียงแค่นั้น แต่ว่ากว่าจะเข้าจัดจำหน่ายรุ่นนี้ก็อาจจะจะต้องรอหน่อย แต่ว่ากล้องถ่ายภาพยังคงเป็นคุณลักษณะเด่นอยู่ครับ เนื่องจากเลนส์ Zeiss T* ตัวเทพสุด

Realme X50 Pro 5G

โทรศัพท์เคลื่อนที่เรือธงของ realme รุ่นแรกของปีที่รองรับ 5G จำพวกที่เรียกว่าครบทุกบริเวณเลยทั้งยัง 700 / 2600 สามารถใช้งานได้แน่ๆ สเปกโดยรวมนับว่าปรับปรุงจาก X2 Pro ในหลายเรื่อง แล้วก็ยังคงน่าใช้แต่ว่าสเปกไหนที่จะขายในประเทศไทย รวมทั้งราคาเครื่องเท่าไหร่ จำต้องรอคอยติดตาม

OPPO Find X2 / Find X2 Pro

สุดท้ายเรือธงอย่าง OPPO ที่กำลังจะเปิดตัวทั้งโลกในวันที่ 6 เดือนมีนาคม กับสเปกจัดหนักจัดเต็ม พื้นฐานมีการใช้ขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 865 แล้วก็มาพร้อมกับ RAM ที่จัดเต็มและก็วางแบบจะเน้นย้ำการใช้แรงงานจริงเพิ่มมากขึ้น แต่ว่าราคานั้นคืออะไรจะต้องติดตามกันต่อไป

เรื่องควรรู้ก่อนซื้อมือถือ 5G

สำหรับผู้ที่พอใจอยากทราบว่าซิมการ์ดของคุณใช้งาน 5G ได้หรือเปล่านั้น โดยมากผู้ให้บริการจะกล่าวว่าถ้าหากรองรับ 4G ก็สามารถใช้งาน 5G ได้เพราะประเทศไทยยังคงเลือกใช้แบบ NSA หรือNon Standalone พอๆกับ 5G ในพื้นฐานของ 4G นั่นเองครับผม ความเร็ว Download จะมากยิ่งกว่า Upload ช่วงนี้แล้วก็ดีไม่ดี4G จะ Upload เร็วกว่าในขณะนี้

 

สนับสนุนโดย  next88

ผลกระทบของการใช้มือถือในปัจจุบันโทรศัพท์มือถือแต่เราเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตประจำวันของมนุษย์และภายในหนึ่งวันเราใช้โทรศัพท์มือถือที่มีการเฉลี่ยโดยประมาณ 5.7 ชั่วโมงต่อวันได้โดยอ้างอิงมาจาก ETDA สำนักงานพัฒนาทุรกรรมทางด้านของอิเล็กทรอนิกส์ ของกระทรวงไอซีทีนั่นเอง 

แล้วคุณรู้หรือไม่ว่าโทรศัพท์มือถือที่เราใช้อยู่นั้นไม่ว่าจะเป็นการโทรหรือเป็นการเล่นแอพพลิเคชั่นในรูปแบบต่างๆจะก่อให้เกิดผลกระทบที่ตามมา โดยมีดังนี้

ในเรื่องของด้านสุขภาพ นั่นก็คือ 

โรคจิตติดมือถือ หรือ nomophobia ซึ่งนั่นก็หมายถึงความรู้สึกไม่สบายใจวิตกกังวลกลัวที่จะไม่มีโทรศัพท์มือถือในการใช้งานโดยจะมีอาการดังต่อไปนี้ 

–ห่างมือถือไม่ได้เลย  

-เสียงมือถือดังทีไรทิ้งทุกอย่างในทันที 

–มีการอัพเดทโซเชียลมีเดียอยู่ตลอดเวลาและไม่มีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลรอบข้างแม้กระทั่งคนในครอบครัว 

โรคจอประสาทตาเสื่อมนั่นก็คือ 

โลกนี้เกิดจากแสงสีน้ำเงินจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือของเราซึ่งดวงตาที่ได้รับแสงสีน้ำเงินมากๆนั้นจะก่อให้เกิดการเสื่อมของศูนย์กลางเรติน่า ของดวงตาโดยจะมีอาการดังต่อไปนี้ 

-มีการมองภาพที่บิดเบี้ยวไปจากเดิม 

–จะมองในที่สว่างได้ไม่ชัดเท่าที่ควร 

-จะมีสายตาที่พล่ามัว 

–และจะมีการมองสีผิดเพี้ยนไปจากเดิม  

โรค Text neck syndrom หรือโรคไหล่ห่อคอตกนั่นเอง 

โลกนี้คือกลุ่มอาการการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อบริเวณที่เป็นคอบ่าและไหล่นั่นเองรวมไปถึงความเสื่อมของกระดูกที่เป็นข้อต่อของกระดูกหรือหมอนรองกระดูกบริเวณที่เป็นคอได้เช่นกันโดยปัญหาหลักหลักเหล่านี้เกิดจากการบาดเจ็บที่ซ้ำซากในบริเวณคอของเรา ซึ่งเป็นการใช้โทรศัพท์มือถือในระยะเวลานานของแต่ละวันและร่างกายอยู่ในอิริยาบถที่สมนั่นเอง 

โรคเนื้องอกหรือมะเร็งที่สมองมีดังนี้ 

โรคที่เกิดจากสาเหตุเหล่านี้เกิดจากรังสีที่แผ่ ออกมาในขณะที่มีการใช้งานของโทรศัพท์มือถือหากเราได้รับรังสีในปริมาณมากและมีการเกิดการสะสมรังสีซึ่งนั่นจะเป็นการไปทำร้ายดีเอ็นเอของร่างกายของเรา และอาจส่งผลให้เกิดเป็นเซลล์เนื้องอกได้ซึ่งถ้าหากร่างกายได้รับกับรังสีเหล่านี้จะส่งผลต่อสุขภาพนั่นก็คือจะมีอาการเวียนหัวปวดหัวเนื้องอกในหูและเนื้องอกนัยน์ตาและร้ายแรงที่สุด นั่นก็คือเนื้องอกในสมองนั่นเอง 

ด้านสังคมและคนรอบข้างมีดังนี้ 

ขาดความมีมนุษย์ สัมพันธ์ที่ดี ถึงแม้ว่าโทรศัพท์มือถือจะเป็นเครื่องมือการสื่อสารที่ทำให้เรานั้นติดต่อกับคนได้มากมายได้ทั่วโลกแต่คนส่วนใหญ่ จะใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อเป็นการพูดคุยกับเพื่อนหรือญาติสนิทมิตรสหายที่อยู่ห่างไกลจึงขาดความใส่ใจที่จะสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ห่างเหินกลายเป็นคนที่แยกตัวออกจากสังคมนั่นเอง       

มีรังสีจากโทรศัพท์มือถือจริงหรือไม่

ในปัจจุบันโทรศัพท์มือถือกายมาเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกายมนุษย์และภายในหนึ่งวันเราใช้โทรศัพท์มือถือโดยเฉลี่ยแล้วประมาณ 7.2 ชั่วโมงต่อวันโดยอ้างอิงมาจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริม สุขภาพแล้วรู้หรือไม่ว่าโทรศัพท์มือถือที่เราใช้นั้นมีรังสีแพร่ออกมาด้วยในขณะที่โทรศัพท์ปิดเครื่องนั้นจะไม่มีรังสีแผ่ออกมาจากตัวเครื่องแต่เมื่อเราเปิดเครื่องจะมีรังสีแพร่ออกมาในปริมาณออกอ่อนในขณะที่เราใช้งานออนไลน์นั้นจะมีรังสีแพร่ออกมาในปริมาณมากและถ้าเราได้รับรังสีปริมาณมากและเกิดการสะสมเป็นเวลานานรังสีที่ได้รับจะไปทำลาย DNA ของเซลล์ในร่างกายทำให้เซลล์เกิดการบาดเจ็บเสียหายและอาจเกิดการกลายพันธุ์เป็นเนื้องอกได้ในที่สุด

เมื่อร่างกายได้รับรังสี จากโทรศัพท์มือถือแล้วจะเป็นอย่างไร

ปัจจุบันเป็นยุคของการใช้เทคโนโลยีเพื่อการติดต่อ สื่อสารและเทคโนโลยีที่ใกล้ตัวคนเรามากที่สุดเป็นอันดับที่หนึ่งนั่นก็คือโทรศัพท์มือถือตามสติในการใช้โทรศัพท์มือถือของคนไทยทั้งห้าภูมิภาคจากสำนักงานสถิติแห่งชาติโดยแบ่งตามช่วงอายุ พบว่าห้าถึง 14 ปีใช้ 23.6% ส่วน 10 ห้าถึง 24 ปี 44.6% 25 ถึง 34 ปีใช้ 19.4% 35 ถึง 49 ปี 10.3% และ 50 ปีขึ้นไปใช้อยู่ที่ 3.4% และ การใช้โทรศัพท์มือถือมากจนเกินไปนั้นก็จะได้รับรังสีจากโทรศัพท์มือถือมากขึ้นด้วยเช่นกันซึ่งจะส่งผลต่อสุขภาพคือจะมีอาการเวียนหัวปวดหัวอาจเกิดเนื้องอกในหูเนื้องอกนัยน์ตาและเนื้องอกใน สมองหากมีอาการเหล่านี้ควรรีบไปพบแพทย์ในทันที

วิธีการป้องกันรังสีจากโทรศัพท์มือถือ

ในสังคมปัจจุบันการดำเนินชีวิตในแต่ละวันของคนเรานั้นมีติกรรมเสพติดการใช้โทรศัพท์มือถือกันมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นเวลากินข้าวเวลาทำงานหรือเวลาเข้าห้องน้ำแม้กระทั่งเวลานอน แล้วเราจะมีวิธีการป้องกันรังสีจากการใช้โทรศัพท์มือถืออย่างไรได้บ้าง

• ควรวางโทรศัพท์มือถือให้ห่างจากตัวประมาณ 15 เซนติเมตร
• ไม่ควรถือโทรศัพท์มือถือข้างเดียวนานเกิน 15 นาที
• ควรใช้หูฟังแทนการใช้โทรศัพท์มือถือแนบกับหู

เด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปีจะมีกะโหลกที่บางกว่าผู้ใหญ่ทำให้เกิดโรคได้ง่ายกว่า

เราจะเห็นได้ว่าการใช้โทรศัพท์มือถือมีทั้งประโยชน์และโทษของมานซึ่งเราควรใช้ให้ถูกจุดหรือถูกลักษณะโดยวิธีการทำปฏิบัติตามคำแนะนำด้านบนจะเป็นการช่วยให้คุณและครอบครัวของคุณห่างไกลโรคต่างๆที่เกิดขึ้นจากโทรศัพท์เหล่านี้และไม่ควรใช้นานเกินเกินไปควรหันไปคุยกับคนรอบข้างบ้างเพื่อเป็นการสานสัมพันธ์ในครอบครัวหากคุณ มัวแต่เล่นโทรศัพท์มือถือหรือต่างคนต่างเล่นนอกจากจะส่งผลให้เกิดผลเสียหรือทำให้เป็นโรคตามมาก็ยังทำให้ครอบครัวของคุณห่างไกลกันมากขึ้นอีกด้วย

สำหรับทุกคนปฏิเสธไม่ได้ใช่ไหมคะว่าโทรศัพท์ในวันนี้ก็เป็นเรื่องของปัจจัยพื้นฐานสำหรับหลายๆท่านไม่ว่าจะเป็นโทรเข้า หรือรับสายหรือดูหนังฟังเพลงเล่นเกมดูยูทูป หรืออะไรแบบนี้แต่บางท่านที่ยังไม่มีโทรศัพท์มือถือใช้หรือบางท่านที่อาจจะทำมือถือหล่นหายตกน้ำหรืออะไรก็แล้วแต่ค่ะและวันนี้เราได้นำเสนอ

สิ่งต่างๆนั้นก็คือการลุ้นรับโทรศัพท์มือถือฟรี นั่นก็คือโทรศัพท์รุ่น huawei นั่นเองโดยรุ่นนั้นจะเป็นรุ่น y6s เป็นการรับเครื่องไปใช้เน็ตฟรีฟรีโดยที่ท่านไม่ต้องจ่ายเงินค่าเครื่องแม้แต่บาทเดียวนะคะ

สำหรับ huawei y6s นั้น เป็นรุ่นจอใหญ่ 6.09 นิ้วหรือประมาณ 6 นิ้วนะคะ

แบตเตอรี่ประมาณ 3020 mah กล้อง 13 ล้านพิกเซล สำหรับในส่วนรายละเอียดในสเป็คพื้นฐานนั้นเราจะมาแนะนำและเป็นการรับเครื่องฟรีนั้นน่ะค่ะหน้าจอนั้นจะเป็นหน้าจอแบบน้ำหยดน้ำโดยมีจอกว้างประมาณ 6.09 นิ้วความละเอียดของหน้าจอคือ 720 โวลต์ 1560 พิกเซล

เป็นระบบปฏิบัติการ android 9.0 หน่วยประมวลผลจะเป็นระบบแบบมีเดียเทคความเร็ว 2.3 จิกะเฮิร์ตซ์ลอม 64 กิ๊กแรมสามจิ๊กพอมาถึงตัวลอมกับแรมบางท่านอาจจะไม่เข้าใจว่าลอมคืออะไร rom พื้นที่จัดเก็บข้อมูล 64 จิ๊กซึ่งก็คือในปัจจุบันนี้ก็จะมีการเก็บ 64 128 อะไรประมาณนี้แต่สำหรับ 64 จิ๊กก็เพียงพอสำหรับการใช้งานพื้นฐานทั่วๆไปนะคะ

ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมหรือดูหนังฟังเพลง และ ram ตัวนี้ให้มามากถึงสามจิ๊ก ซึ่งเป็นรุ่นกลางถึงสูงนะคะและสำหรับเรื่องนี้ยังสามารถเพิ่มเมมบริการได้อีกถึง 512 จิ๊กกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซลโลรับแสงขนาด f/1.8 กล้องหน้าความละเอียดแปดล้านพิกเซลรูรับแสง f/2.0 แบตเตอรี่ที่ให้มาพร้อมกับตัวเครื่อง 3020 mah นี่ก็เป็นสเปคของตัวเครื่อง huawei y6s ราคาไม่ได้เสียงนะคือท่านไม่ต้องจ่าย เงินค่าเครื่องแม้แต่บาทเดียวนะคะสำหรับการรับ huawei y6s ไปใช้นั้น แบบฟรีๆ และรายละเอียดในการรับฟรีมีดังนี้

สำหรับรายละเอียดในการรับโทรศัพท์แบบฟรีโดยที่ฉันไม่ต้องเสียงเงิน

หรือจ่ายเงินค่าเครื่องแม้แต่บาทเดียวนั้นก็เป็นชั่นจากทางด้านของเครือข่ายดีแทคสำหรับพรุ่งนี้ก็คือโทรศัพท์รุ่นนี้จะมีสีด้วยกันทั้งหมดสองสีด้วยกันซึ่งจะมีสีดำและจะมีสีฟ้าสามารถรับฟรีได้ทั้งสองสีเลยนะคะสำหรับการรับฟรีทั้งสองสีนี้จะได้ของแถมเป็นยูเอสบีอะแด๊บเตอร์มูลราคา 780 บาทไปใช้งานด้วยนะคะ

เห็นหรือเปล่าคะว่าเพื่อนก็รับฟรีแถมยังได้ของแถมอีกสำหรับโปรโมชั่นนี้ตามที่เราได้แจ้งไปจะเป็นโปรโมชั่นทางด้านของเครือข่ายดีแทคในรายละเอียดของการรับเครื่องฟรีนั้นทางดีแทคก็ได้มีกำหนดและกฎเกณฑ์ในการรับเครื่องฟรีทั้งหมดดังต่อไปนี้

ในการรับเครื่องฟรีของมือถือรุ่นนี้นั้นทาง DTAC ได้กำหนดไว้ว่าสำหรับลูกค้าที่ย้ายค่ายมาใช้ระบบของดีแทคระหว่างวันที่ 19 ถึง 29 กุมภาพันธ์ผ่านทางช่องทางออนไลน์ในส่วนของวิธีการย้ายค่ายผ่านทาง ช่องทางออนไลน์มาเป็นระบบเครือข่ายของดีแทค และการรับช่องทางในการรับเครื่องฟรีนั้นที่ท่านไม่ต้องจ่ายเงินค่าเครื่องแม้แต่บาทเดียว

เพียงแต่ดีแทคให้ท่านชำระค่าบริการรายเดือนล่วงหน้า 700 บาทตรงจุดนี้หลายหลายท่านก็คงจะสงสัยว่าการที่เราได้แจ้งเมื่อสักครู่นั่นก็คือรับเครื่องฟรีแต่ทำไมเราจะต้องจ่ายเงินค่าบริการล่วงหน้าทำไมไม่ได้ฟรีโดยที่ไม่ต้องจ่ายอะไรเลยตรงนี้ขอชี้แจงเพิ่มเติม

ดังนี้การรับเครื่องฟรีนั้นก็คือโปรโมชั่นจากทางร้านของดีแทคโดยดีแทคนั้นให้เครื่องฟรีซึ่งท่านไม่ต้องจ่ายเงินเพราะถ้าท่านเดินทางไปซื้อตามร้านค้าโทรศัพท์รุ่นนี้จะต้องทำการจ่ายเงินประมาณ 4000 บาทท่านจะไม่ได้ฟรี